The Results of Instruction Model Using the Demonstration Method of Algorithm on Practice Skills and Learning Achievement of Secondary Grade 4 Students -
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research were to compare the students' practical skills, by instruction model using the demonstration method. To compare students' learning achievement by learning management using the demonstration method. In addition, to study the students' satisfaction toward learning management using the demonstration method. The samples were 24 students using cluster random sampling by the classroom as a random unit from 6 classrooms. The research instruments were consisted of 1) There were 4 lesson plan demonstration method of conceptual modeling algorithms 2) The test of learning achievement, which is a multiple choice test with 4 options and 30 items. 3) The questionnaire of satisfaction of secondary grade 4 students consisted of knowledge and usage teaching techniques measurement and evaluation. The statistics used in the study were mean, standard deviation and t-test.
The finding revealed that.
1) Practical skills of secondary grade 4 students through instruction model using the demonstration method were higher significantly at .01.
2) Learning Achievement of secondary grade 4 students through instruction model using the demonstration method were higher significantly at .01.
3) Satisfaction of secondary grade 4 students through instruction model using the demonstration method were at the high level ( = 4.13)
Suggestion for next research, this research can be applied in the study of programming languages in the lower or higher education to enhance the learner’s practical skill to write the algorithm and it can be applied in the study of Sciences and Mathematics to enhance problem solving skills.
Article Details
ในกรณีที่กองบรรณาธิการ หรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับเชิญให้เป็นผู้ตรวจบทความวิจัย หรือ บทความทางวิชาการมีความเห็นว่าควรแก้ไขความบกพร่อง ทางกองบรรณาธิการจะส่งต้นฉบับให้ ผู้เขียนพิจารณาจัดการแก้ไขให้เหมาะสมก่อนที่จะลงพิมพ์ ทั้งนี้ กองบรรณาธิการจะยึดถือความคิด เห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นเกณฑ์
References
กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2545.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินคาและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
จันทร์ฟอง รุ่งฤทธิ์ประภากร. (2552). ผลการสอนแบบสาธิตโดยใช้เทคนิคจิกซอว์(II) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการประดิษฐ์ดอกไม้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนคีรีวงศ์วัฒนา. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต. นครสวรรค์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
เฉลิม แก้วจันทร์. (2556). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดแก้ปัญหาของนักศึกษาระดับอนุปริญญา (ปวส.) ปีที่ 2 ที่เรียนโดยการสอนคิดแบบโยนิโสมนสิการกับการสอนแบบสาธิต. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. สงขลา : มหาวิทยาลัยทักษิณ
ทิศนา แขมมณี. (2556). ศาสตร์การสอน : องค์วามรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.(พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพศาล ชุ่มสุวรรณ. (2547). การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ความคงทนและความชอบทางการเรียนจากบทเรียนวีดิทัศน์ ที่นำเสนอแบบบรรยายประกอบการสาธิตและแบบจำลองสถานการณ์ในสถานประกอบการในการสอนเรื่องเทคนิคการพิมพ์ซิลสกรีน. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต. กรุงเทพ ฯ : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
รุ่งนภา กลิ่นกลาง. (2557). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือร่วมกับทักษะปฏิบัติและการจัดการเรียนรู้แบบปกติ. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2558). ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน กรุงเทพ ฯ : สืบค้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2558 จากhttps://www.sea12.go.th/sea12/index.php/o-net
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2552). 21 วิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะการคิด.กรุงเทพ ฯ : ภาพพิมพ์.
อับดุลฮาลีม มามะ. (2558). ผลการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานโดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของ เดวีส์ เรื่องการสร้างสรรค์งานมัลติมีเดีย ที่มีต่อทักษะปฏิบัติ ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4.วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต. สงขลา : มหาวิทยาลัยทักษิณ.
อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2546). หลักการสอน (ฉบับปรับปรุง) พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพ ฯ : โอเดียนสโตร์.