รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนสำหรับนักศึกษาครู: ศึกษากรณีนักศึกษาครูที่สอนวิชาอื่น

ผู้แต่ง

  • ภาวิณี เดชเทศ อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • พัชราวลัย มีทรัพย์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการวิจัยและประเมินทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • ปัณณวิชญ์ ใบกุหลาบ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการวิจัยและประเมินทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

คำสำคัญ:

รูปแบบ, สมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอน, การรับรู้ความสามารถของตนในการใช้ภาษาอังกฤษในการสอน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนสำหรับนักศึกษาครูที่สอนวิชาอื่น 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนสำหรับนักศึกษาครูที่สอนวิชาอื่น แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การสร้างและพัฒนารูปแบบและระยะที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาครูคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหาและการทดสอบค่าที (t-test dependent) ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนสำหรับนักศึกษาครูที่สอนวิชาอื่น ประกอบไปด้วย 5 ส่วน ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) เนื้อหาของรูปแบบ 4) กระบวนการเรียนรู้ และ 5) การวัดและประเมินผล ผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านอรรถประโยชน์ 2) ด้านความเป็นไปได้ 3) ด้านความเหมาะสมและ4) ด้านความถูกต้อง ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .193 และ2. ผลการทดลองใช้รูปแบบ ตามองค์ประกอบของสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอน ในด้านความรู้ มีค่าเฉลี่ยหลังการอบรมอยู่ที่ 14.05 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ในด้านทักษะ ในขั้นการทดลองสอน ในภาพรวมในทุก ๆ องค์ประกอบ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.10 และการประเมินในขั้นตอนการสร้างและพัฒนาเครื่องมือ ในภาพรวมในทุก ๆ องค์ประกอบ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.83 การประเมินสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษในการสอน ในขั้นตอนการนิเทศติดตาม จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 การนิเทศการสอนโดยประเมินจากคลิปวิดีโอการสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.04 ครั้งที่ 2 เป็นการนิเทศการสอนที่สถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.33 ในด้านคุณลักษณะของการวัดระดับการรับรู้ความสามารถของตนในการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างก่อนการอบรมและหลังการอบรม มีค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสูงขึ้นกว่าก่อนการอบรมในทุกองค์ประกอบและการศึกษาผลการทบทวนหลังการปฏิบัติการ (AAR) ในทุกขั้นตอนของการใช้รูปแบบ

เอกสารอ้างอิง

จันทร์ฉาย มีสวนทอง. (2561). การศึกษาความตรงเชิงโครงสร้างของแบบวัดการรับรู้ความสามารถของตนในการใช้ภาษาอังกฤษของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. [วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา]. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.

พรพิมล ประสงค์พร. (2557). การเสริมสร้างสมรรถนะของครูในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา (CLIL). วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 37(3), 81-88. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDKKUJ/article/view/49971/41368

ภาวิณี เดชเทศ. (2566). การศึกษาการรับรู้ความสามารถของตนในการใช้ภาษาอังกฤษในการสอน ของนักศึกษาครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 17(3), 123-139. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JournalGradVRU/article/view/255839/178163

สมโภชน์ พนาวาส. (2558). การสอดแทรกภาษาอังกฤษในรายวิชาที่ไม่ใช่วิชาภาษาอังกฤษ. วารสารวิจัย มสด สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (SDU research journal humanities and social science), 11(3), 177-186. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/sduhs/article/view/99385/77243

สุพิชญา ไชยรัตนะ และมณีรัตน์ เอกโยคยะ. (2564). ผลของการสอนแบบสารเสวนาในวิชาวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการบูรณาการเนื้อหาและภาษาต่อความสามารถในการสื่อสารด้วยวาจาเป็นภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาในหลักสูตรภาษาอังกฤษ. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา (OJED) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 17(1), https://doi.nrct.go.th/admin/doc/doc_622399.pdf

Bandura, A. (1997). Self-Efficacy: The Exercise of Control. W. H. Freeman.

Coyle, D., Hood, P., and Marsh, D. (2010). Frontmatter. In CLIL: Content and Language Integrated Learning. (pp. I-iv). frontmatter, Cambridge: Cambridge University Press.

Joyce B. R. and Weil M. (1996). Models of teaching (5th ed). Allyn and Bacon.

McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than for "intelligence." American Psychologist, 28(1), 1-14. https://doi.org/10.1037/h0034092

Stufflebeam, D. L. (2000). The CIPP Model for Evaluation. In: Stufflebeam, D. L., Madaus, G. F., Kellaghan, T. (eds), Evaluation models: Viewpoints on educational and Human services evaluation, vol 49. Springer, Dordrecht. (pp. 279-317). https://doi.org/10.1007/0-306-47559-6_16

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-30