การพัฒนาบทเรียนเอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่อง การเขียนโปรแกรม ภาษาไพทอนเบื้องต้น สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

การพัฒนาบทเรียนเอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่อง การเขียนโปรแกรม ภาษาไพทอนเบื้องต้น

ผู้แต่ง

  • ภาณุมาศ เทียมศรีรัชนีกร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

คำสำคัญ:

เอ็มเลิร์นนิง การเรียนรู้แบบนำตนเอง ภาษาไพทอน

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนเอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนเบื้องต้น 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยบทเรียน        เอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนเบื้องต้น 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนเอ็มเลิร์นนิง เรื่องการเขียนโปรแกรมภษาไพทอนเบื้องต้นที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม จำนวน 30 คนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบนำตนเอง บทเรียนเอ็มเลิร์นนิง เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนเบื้องต้น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และและ t-test  แบบ dependent  

        ผลการวิจัย พบว่า 1) บทเรียนเอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนเบื้องต้น ประกอบด้วยเนื้อหา 4 หน่วยการเรียนรู้ บทเรียนมีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก (=4.93, S.D.=0.13) ด้านการออกแบบบทเรียนอยู่ในระดับดีมาก (=4.84, S.D.=0.21) และมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 80.17/89.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมากกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่สถิติที่ระดับ .05  3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนเอ็มเลิร์นนิงร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเอง เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนเบื้องต้นภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด   (=4.48, S.D.=0.62)

เอกสารอ้างอิง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ.(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). คู่มือการใช้หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 319 วังจันทรเกษม ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กทม. 10300
นวพร ชลารักษ์.2558.บทบาทของครูกับการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 The Teacher's Role and Instruction in The 21st Century. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทอร์น,ปีที่ 9 (ฉบับที่ 1),68
สาโรช โศภีรักข์. (2557-2558). M – Learning. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, ปีที่ 3 (ฉบับที่ 2) 32-33.
ธิดา บุตรรักษ์. (2557, ตุลาคม-ธันวาคม). แนวโน้มการจัดการเรียนการสอนผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีในทศวรรษหน้า. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 8 (2), 74-85
Griffin colin. Curriculum Theory in Adoult Lifelong Education. London: croom Helm. 1983.
Grow, G. O. (1991). Teaching learners to be self-directed. Adult education quarterly, 41(3), 125-149.
วัชรพล วิบูลยศริน.(2557).หลักการออกแบบการสอนบนเว็บตามแบบจำลอง ADDIE เพื่อการผสอน สนทนาภาษาไทยเบื้องต้นสำหรับชาวต่างประเทศ.วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), ปีที่ 6 (ฉบับที่ 12), 196-198.
บุญชม ศรีสะอาด.(2542). วิธีการสถิติสำหรับการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ :สุรีวิยาสาร์น.
ศุภวรรณ์ เพชรอำไพ .(2560). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการ Mobile – Learning เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านการใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1. รายงานการวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 1.
ธงชัย แก้วกิริยา.(2552-2553). E-Learning ก้าวไปสู่ M-Learning ในยุคสังคมของการสื่อสารไร้พรมแดน. วารสารร่มพฤกษ์, 112
เขมกร.(2560). การใช้การเรียนรู้แบบนำตนเอง เพื่อพัฒนา การเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, 33.



.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-09-14