ทิศทางการรายงานผลการดำเนินงานแบบสามมิติในประเทศไทย
คำสำคัญ:
กำไรสามมิติ, การพัฒนาอย่างยั่งยืน, รายงานความยั่งยืน, การเพิ่มมูลค่าของธุรกิจบทคัดย่อ
ในอดีตที่ผ่านมาวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินธุรกิจ คือการสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของ
กิจการนั้นๆ ในรูปแบบของกำไร แต่ในปัจจุบันการทำธุรกิจที่เน้นเฉพาะตัวสินค้าหรือบริการและการสร้างกำไร
เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้กิจการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ Triple Bottom Line หรือ กำไรสามมิติ เป็นแนวคิด
ที่ขยายการวัดผลความสำเร็จของการดำเนินงานจากการวัดจากผลกำไรเพียงอย่างเดียว มาเป็นการวัดผลความสำเร็จ
ของกิจการในสามด้าน ได้แก่ ด้านสังคม-สิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้ตระหนักถึง
ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาเรื่องการจ้างงานและสิทธิมนุษยชน ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมฯ
ซึ่งมีผลกระทบต่อความยั่งยืนในระดับโลก อีกทั้งผู้มีส่วนได้เสียกับกิจการให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้มากขึ้น
ดังนั้นบริษัทมหาชนและบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยหลายแห่ง จึงเริ่มนำหลักกำไรสามมิติมาใช้ประกอบการจัด
ทำรายงานความยั่งยืน หลักกำไรสามมิติมุ่งเน้นที่การรายงานที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาที่ช่วยสร้าง
คุณค่าต่อสังคม มากกว่าการรายงานเฉพาะผลลัพธ์ของโครงการ ดังนั้นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการนำหลักกำไร
สามมิติมาใช้ จะสามารถดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมนวัตกรรมให้กับองค์กร สร้างความได้เปรียบ
ในแข่งขันให้กับธุรกิจ ลดรายจ่ายขององค์กร ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของลูกค้า
เพิ่มความผูกพันกับพนักงาน และผลักดันไปสู่การสร้างมูลค่าธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยต้องเป็นบทความที่ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่นๆ การละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง