DEVELOPMENT OF FLIPPED CLASSROOM LEARNING PROCESS WITH ENGLISH READING STRATEGY TO ENHANCE READING COMPREHENSION FOR PRATHOMSUKSA 6 STUDENTS

Main Article Content

Puncharat Chaisawat
Prakob Jaiman
Sujin Nukaew

Abstract

This research aimed to 1) study the components of the learning management process of Flipped Classroom with reading strategy learning management, 2) develop and evaluate the efficiency of the Flipped Classroom with reading strategy learning management, and 3) evaluate the effectiveness of the learning process development of Flipped Classroom with reading strategy learning management. The research method was research and development. The sample groups consisted of 30 grade 6 students at Ban Klong Din School under the Office of Nakhon Si Thammarat Primary Educational Service Area 1 in 2023 semester, selected by cluster random sampling. The research tools were document analysis forms, English achievement test, reading comprehension ability test and a satisfaction assessment form. The data were analyzed by content analysis, percentage, mean, standard deviation, and Dependent Samples t-test


The research results showed that:


1. The Components of the Flipped Classroom learning process are divided into 6 elements 1) setting strategies to increase experience, 2) clearly setting learning objectives, 3) creating students' own knowledge, 4) setting content and workload, 5) creating classroom activities, and 6) Applying knowledge. The learning management process of flipped classroom consisted of 4 steps: 1) introducing the learning process, 2) studying content through online media, 3) learning activities in class, and 4) evaluating academic results. English reading strategies consisted of 5 strategies: 1) predicting events, 2) asking questions, 3) ordering events, 4) summary, and 5) monitoring reading comprehension results.


2. The results found that efficiency of the learning management process, the elements of the learning management process and procedures of Flipped Classroom with reading strategy learning management to enhance reading comprehension were consisted of 4 steps: 1) Introducing the learning process 1.1) Predicting events , 2) Studying content through online media 2.1) Asking questions 3) Learning activities in class 3.1) Understanding 3.2) Monitoring 3.3) Summary of main points 4) Post-study evaluation step. The efficiency of the learning management process (E1/E2) was 78.33/76.67


3. The result of effectiveness of using the learning management process, elements of the learning management process and procedures of Flipped Classroom with reading strategy learning management to enhance reading comprehension were as follows:


3.1 English learning achievement of Grade 6 students after learning was significantly higher than before at the .05 level.


3.2 English reading comprehension ability after learning was significantly higher than before at the .05 level.


3.3 The satisfaction of the student was at a high level.

Article Details

Section
บทความวิจัย

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

กิตติพงษ์ แสนรัก. (2565). ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการรู้เรื่องภูมิศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

เกวลิน หวังมุทิตากุล. (2565). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (FLIPPED CLASSROOM) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

เกรียงไกร สกุลประเสริฐศรี. (2557). ผลการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้แนวคิดกำรเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านที่มีต่อความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จันทิมา มะเกลี้ยง. (2560). รูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีบูรณาการของเมอร์ด็อคร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้านสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์. ค.ม. นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช.

ชลธิชา วิมลจันทร์. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง อัตราส่วนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ค.ม. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ธนาวรรณ ประจุดทะศรี. (2555). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เจตคติต่อวิชาภาษาอังกฤษและการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองและการใช้บทบาทสมมติ. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ธัญญาศิริ สิทธิราช และรพีพร สร้อยน้ำ. (2565). ผลการใช้ห้องเรียนกลับด้านเพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 11(2), 1911–208.

ธีรภรณ์ ไชยเวช. (2561). การออกแบบการสอนห้องเรียนกลับทางสำหรับการอ่านบทความภาษาอังกฤษที่มีกริยาวลี. การค้นคว้าอิสระ ศษ.ม. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

บุษราคัม อินทสุก. (2565). การสอนอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กลยุทธ์การอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านของนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 12(2), 119–126.

พิมพ์ประภา พาลพ่าย และณัฐพล รำไพ. (2557). การใช้สื่อสังคมตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง ภาษาเพื่อการสื่อสารเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

พิมพ์พิสุทธิ์ ขันทะสีมา. (2565). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์วรรณคดี เรื่อง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ โดยใช้แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. การค้นคว้าอิสระ ศษ.ม. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ภัทราทิพย์ ธงวาส. (2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนการสอนร่วมกับกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. การค้นคว้าอิสระ กศ.ม. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

เมธาวี ปัญญาจันทร์สว่าง. (2565). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้คําศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. Journal of Roi Kaensarn Academi, 7(6), 105–116.

รังสิยา นรินทร์. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านโดยการใช้กิจกรรมเป็นฐานในการเรียนรู้เพื่อ เสริมสร้างความมุ่งมั่นแน่วแน่ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. วิทยานิพนธ์. ค.ม. นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช.

ลักขณา สริวัฒน์. (2557). จิตวิทยาสำหรับครู. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

วราภรณ์ พรมอินทร์. (2561). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ. วิทยานิพนธ์. กศ.ม. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

วัชราภรณ์ เกตุช้าง ธีรพงษ์ จันเปรียง และเจนวิทย์ วารีบ่อ. (2565). การศึกษารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักศึกษา สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. รายงานการวิจัย. จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์ สร้างห้องเรียนกลับทาง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสยามกัมมาจล.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2565). สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O–Net). เข้าถึงได้จาก http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx. 16 พฤษภาคม 2566.

สิตรา ศรีเหรา. (2560). การพัฒนาความสามารถทางการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการอ่านแบบกว้างขวาง. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

สุดเฉลิม ศัสตราพฤกษ์. (2560). การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 แบบห้องเรียนกลับด้านเพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 28(1), 100–108.

สุพัตรา อุตมัง. (2558). แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน: ภาพฝันที่เป็นจริงในวิชาภาษาไทย. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 16(1), 51–58.

อนุชา โสมาบุตร. (2558). นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์. เอกสารประกอบการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

อรรคพล อุษา. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค TGT ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. การค้นคว้าอิสระ กศ.ม. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

อรุณี วิริยะจิตรา และคณะ. (2554). เหลียวหลังแลหน้าการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: บริษัท ส เอเชีย เพรส (1989) จำกัด.

อารีรักษ์ มีแจ้ง. (2547). การพัฒนารูปแบบการสอนกลวิธีการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมงานเพื่อส่งเสริมผลการเรียนรู้การอ่านสำหรับนิสิต นักศึกษา. วิทยานิพนธ์ ค.ด. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อาลัย พะสุนนท์. (2559). การพัฒนาแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Anderson, T. P. (2000). Using models of instruction. In C. R. Dills and A. J. Romiszowski (eds). Instructional Development Paradigms. Englewood Cliffs, NJ: Educational Technology Publications.

Edufirst. (2023). ผลการจัดอันดับภาษาอังกฤษคนไทย ปี 2023. Retrieved from https://www.edufirstschool.com. June 17th, 2023.

Bergmann, J., & Sams, A. (2012). Flip your classroom: Reach every student in every class every day. Eugene, OR: International Society for Technology in Education.

Manoli, P., & Papadopoulou, M. (2012). Reading strategies versus reading skills: Two faces of the same coin. Procedia–Social and Behavioral Sciences, 46, 817–821.