รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูระดับประถมศึกษายุคประเทศไทย 4.0
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบผสมผสาน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของครูต่อปัญหาและความคาดหวังต่อสมรรถนะของครูในยุคประเทศไทย 4.0 และเพื่อเสนอรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูระดับประถมศึกษายุคประเทศไทย 4.0 กลุ่มตัวอย่างคือ ครูของโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 จำนวน 266 คน และผู้อำนวยการ/รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 จำนวน 12 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้รูปแบบการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ระดับความคิดเห็นของครูมีความคาดหวังต่อสมรรถนะของครูในยุคประเทศไทย 4.0 สูงกว่าปัญหาสมรรถนะทุกด้าน โดยด้านการพัฒนาผู้เรียนมากที่สุด รองลงมาคือ การพัฒนาตนเอง และการบริหารจัดการชั้นเรียน ดังนั้น จึงนำสู่การหารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครู โดยนำรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาพัฒนาร่วมกับการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียน
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และทำงานเป็นทีมในโรงเรียนเดียวกัน หรือโรงเรียนอื่นผ่านระบบสารสนเทศ อันจะนำไปสู่ผลประโยชน์ที่นักเรียน ครู ผู้บริหาร และโรงเรียน จะได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความและบทความในวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ เป็นแนวคิดของผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของคณะผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
ข้อความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการีพิมพ์ในวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ หากบุคคลใดหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการก่อนเท่านั้น
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). การวิจัยและพัฒนานโยบายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา.
กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). การพัฒนากลไกขับเคลื่อนระบบการผลิตและพัฒนาครูสมรรถนะสูงสำหรับประเทศไทย 4.0.
กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
ชัย สมิทธิไกร. (2550). การสรรหา การคัดเลือก และการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร (พิมพ์ครั้งที่ 2).
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณรงค์วิทย์ แสนทอง. (2551). การบริหารผลงานเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ดิเรก พรสีมา. (2559). ครูไทย 4.0. จาก https://www.matichon.co.th/columnists/news_345042
ถาวร เส้งเอียด. (2553). สภาพ ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาตนเองของครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดราชบุรี
และสมุทรสงคราม. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 34(3-4), 108-116.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). หลักการวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาส์น.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2561). การศึกษา 4.0 เป็นยิ่งกว่าการศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เลิศนภา พงษ์ดำ. (2561). การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานด้านการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครู: กรณีศึกษา
โรงเรียนสุเหร่าดอนสะแก. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. (2558). PLC คืออะไร สำคัญอย่างไร.
จาก https://candmbsri.wordpress.com/2015/04/02/plc
สุนันท์ สีพาย และไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2561). เปลี่ยนผ่านการศึกษาไทยสู่ การศึกษา 4.0.
วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 24(2), 13-27.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. (2562). ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. จาก https://new.phitsanulok1.go.th
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2556). สภาพปัจจุบันและปัญหาการพัฒนาครู. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
อำนวย แสงสว่าง. (2544). การจัดการทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: อักษราพิพัฒน์.
Erdfelder, E., Faul, F., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A Flexible Statistical Power Analysis
Program for the Social, Behavioral, and Biomedical Sciences. Behavior Research Methods,
, 175- 191.
Hord, S. M. (1997). Professional learning communities: Communities of inquiry and improvement.
Austin: Southwest Educational Development Laboratory.
Likert, R. (1979). The Method of Constructing and Attitude Scale. New York: Wiley and Son.
McClelland, D. C. (1973). Testing for Competence Rather than for Intelligence. American Psychologist,
(1), 1-14.