Improving efficiency of supply chain management of Toei Hom products Phutthamonthon Nakhon Pathom Province
Main Article Content
Abstract
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเพิ่มศักยภาพด้านโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ใบเตยหอมอำเภอพุทธมลฑล จังหวัดนครปฐม จำแนกตามกิจกรรมโลจิสติกส์ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ทางสถิติ ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1)ประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 40 – 60 ปี ขนาดพื้นที่เพาะปลูก 1- 2 ไร่ และมีประสบการณ์ในการปลูกใบเตยหอม 3 - 6 ปี กิจกรรมโลจิสติกส์ของเกษตรกร อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 2)ด้านการบริหารจัดการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสู่ภายนอกส่วนใหญ่ชาวสวนไม่ได้ออกไปส่งสินค้าเอง จะมีพ่อค้าคนกลางมารับจากในสวน จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาในการขนส่งผิดพลาย การขนส่งล่าช้า และลดปัญหาการเน่าเสียของใบเตยหอมของทางชุมชน 3)ด้านการบรรจุภัณฑ์และหีบห่อผลิตภัณฑ์ใบเตยหอมที่ชุมชน อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ได้มีการปลูกเพื่อไว้จำหน่ายนั้น มีการบรรจุหีบห่อที่ดีและทันสมัย เหมาะสำหรับการส่งออกเพื่อไปขายยังสถานที่ต่างๆ ชุมชนมีการพัฒนาหีบห่อ เพื่อจะได้สร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของตนเอง การมีบรรจุภัณฑ์ที่ดี และเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของสินค้าตนเอง การมีบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะทำให้ช่วยลดความเสียหายในผลิตภัณฑ์ใบเตยหอมของตนเอง และสามารถจำหน่ายได้ในเราค่าที่สูงมากขึ้น 4)ด้านช่องทางการจำหน่ายนอกจากชุมชนจะมันขายเองในตลาด เนื่องจากว่า แต่ละเดือน สามารถตัดใบขายได้ถึง 4 ครั้ง โดยจะตัดในช่วงก่อนวันพระ 1-2 วัน ในการตัดก็จะเลือกตัดเฉพาะใบที่ไม่มีตำหนิ ตัดจากใบด้านล่างขึ้นมา ปัจจุบัน สามารถเก็บใบเตยได้ครั้งละกว่า 100-200 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท และอีกแบบคือ แบบขายต้นแขนง ซึ่งจะเลือกเก็บเฉพาะต้นที่สมบูรณ์ รูปทรงสวย ในราคาแขนงละ 50 สตางค์ โดยลูกค้าจะนำไปมัดรวมกับดอกไม้กำ หรือนำไปขยายพันธุ์ จะมีการขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น การขายออนไลน์ผ่านทาง Facebook , ผ่านทาง Line , Lazada และ Shopee
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
The author(s) is only responsible for data appearing in the submitted manuscript of Interdisciplinary social sciences and communication journal.Besides, this journal encourages and enables you to share data such as statements, contents, figures, etc. that support your research publication where appropriate, and enables you to interlink the data with proper citation.
References
กาญจน์วจี ธนโชติรุ่งสาทิส. (2557). ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโลจิสติกส์ขนส่งข้าวไทยในเส้นทางขนส่งจากจังหวัดนครสวรรค์-ส่งออกต่างประเทศ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์.
ชัญญาภัค หล้าแหล่ง. (2559). การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ทุเรียนในภาคใต้. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ณัฐพล วัฒนไชย. (2561). การปรับปรุงกระบวนการด้านโลจิสติกส์ตั้งแต่การจองรถจนถึงจุดส่งสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์แห่งหนึ่ง. กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ทายวุฒิ โพธิ์ทองแสงอรุณ. (2560). กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาล กรณีศึกษาโรงงานน้ำตาลวังขนาย. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยราชภัฏขอนแก่น.
ธนิต โสรัตน์, 2550. การประยุกต์ใช้โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน, ประทุมทอง พริ้นติ่ง กรุ๊ป จำกัด.
กรุงเทพฯ, หน้า 68 – 72.
ธนชาติ นุ่มนนท์, 2561. Digital Transformation คือการพัฒนา Platform มิใช้แค่การสร้าง Product หรือ Service. [Online] https://thanachart.org/2018/03/24/digital-transformation -คือการพัฒนา-platform-มิใช่แค/. (1 ตุลาคม 2563)
พงษ์ชัย อธิคมรัตนกุล. โลจิสติกส์ก้าวอย่างประเทศไทยในกระแสโลกาภิวัฒน์. กรุงเทพฯ:
สุขภาพ, 2550.
CSCMP: Council of Supply Chain Management Professionals. 2006. Supply Chain Managementand Logistics Definition. [Online] http://www.cscmp.org/ Website/AboutCSCMP/Definitions/Definitions.asp. (1 October 2020)
Handfield, R.B. and Nichols, E.L. (1999), Introduction to supply chain Management, Prentice-Hall, Englewood Cliffs, NJ.
Lambert, D.M., Baker, A., Huynen, L., Haddrath, O., Herbert, P.D.N. and Millar, C.D. (2003). Is a Large-Scale DNA-Based Inventory of Ancient Life Possible. Journal of Heredity 96(3): 279-284
Mentzer, John T. et al. “Defining Supply Chain Management.” Journal of Business Logistics. 22, 2 (2001): 1-25.