ปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิผลของนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การจัดการศึกษาในระดับปริญญาตรีในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อระบบการศึกษารวมถึงการเรียนการสอนในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ปัญหาการพ้นสภาพของนักศึกษาในอัตราที่สูงส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทั้งด้านบุคคลและสังคม ดังนั้น การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลการเรียนการสอนจึงมีความสำคัญ งานวิจัยนี้มุ่งเน้นศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการศึกษา คุณภาพของคณาจารย์ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักศึกษา รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและการสนับสนุนจากครอบครัว ซึ่งงานวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยเก็บข้อมูลจากเอกสาร สัมภาษณ์ และการสังเกตการณ์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาการออกกลางคันและเสนอแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและระบบการศึกษาให้มีประสิทธิผล
ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนการสอนและการออกกลางคัน ได้แก่ ปัจจัยด้านสถานศึกษาและสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยและความห่างไกลจากบ้าน ปัจจัยการจัดการเรียนการสอน เช่น ความยากของเนื้อหาและการมีวิชาที่มากเกินไป ปัจจัยด้านอาจารย์ผู้สอนที่ขาดประสบการณ์และความเอาใจใส่ รวมถึงพฤติกรรมของนักศึกษาที่ขาดความรับผิดชอบและแรงจูงใจ นอกจากนี้ สถานภาพครอบครัวที่มีปัญหาด้านความสัมพันธ์และเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงส่งผลให้ขาดแรงสนับสนุนในการเรียน ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับทฤษฎีการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ โดยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิผลสามารถลดปัญหาการออกกลางคันได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ขัดแย้ง เช่น ความยากของเนื้อหาวิชาที่ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานความรู้ของนักศึกษาและปัญหาจากการขาดแรงจูงใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การออกเรียนกลางคัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการปรับปรุงการสอนและการสนับสนุนทางการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิผล โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาและเพิ่มคุณภาพการสอนเพื่อยกระดับประสิทธิผลการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
** ข้อความ ข้อคิดเห็น หรือข้อค้นพบ ในวารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการสื่อสารเป็นของผู้เขียน ซึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความและงานวิจัยนั้น ๆ โดยมิใช่ความรับผิดชอบของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี **
เอกสารอ้างอิง
กัญญาภิญญ์ สีรัตน์เจริญ, และสุนันท์ ช่วยชู. (2566). แนวทางการพัฒนาการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทย. วารสารมณีเชษฐาราม, 6(1), 32-49.
เกษตร เมืองทอง. (2544). สาเหตุการออกกลางคันของนักศึกษา สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า คณะครุศาศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต). กรุงเทพ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
จาตุพล ยงศล. (2560). การสูญเปล่าทางการศึกษาส่งผลต่อคุณภาพบัณฑิตของอุดมศึกษาไทย. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 18(1), 1-9.
ชูชาติ รูปงาม และดนิตา ดวงวิไล. (2562). การแก้ปัญหาการออกกลางคันของผู้เรียนวิทยาลัยการอาชีพ สังกัดสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 9(1), 152-158.
ดวงเดือน แสงแพร้ว และสกล วิแก้วมรกต. (2565). ผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่มีต่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสารพัฒนาการเรียนการสอนมหาวิทยาลัยรังสิต, 16(2), 52-72.
นงลักษณ์ ดิสสร. (2557). การศึกษาปัจจัยและสาเหตุการออกกลางคันของนักเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
นันธวัช นุนารถ. (15 มีนาคม 2565). ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการออกกลางคันของเด็กและเยาวชน. การประชุมวิชาการรับชาติ ครั้งที่ 2. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร.
ประกิต บุญมี และบุญมี เณรยอด. (2565). ทิศทางการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตของสถาบันอุดมศึกษาในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2563-2572). วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 10(4), 1560-1573.
ประยุทธ ไทยธานี. (2563). การส่งเสริมแรงจูงใจภายในให้แก่ผู้เรียน. วารสารราชพฤกษ์, 18(1), 9-19.
พเยาว์ ดีใจ, น้ำทิพย์ ไชยสวัสดิ์, ชญาภัทร กี่อาริโย, จอมขวัญ สุวรณรรักษ์, และพจนีย์ บุญนา. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อการออกกลางคันตามความคิดเห็นของนักศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.
ภุมริน บุญทวี. (2548). ปัจจัยทางครอบครัวและพฤติกรรมทางสังคมที่มีผลต่อการออกกลางคันของนักศึกษาโรงเรียนอาชีวะเอกชน ในจังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วรมณ ช่อไม้ทอง. (2566). ผลการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนด้วยวิธีการสร้างเรื่องเล่าแบบดิจิทัลตามแนวคิดคอนสตัคชันนิซึม. วารสารพัฒนาการเรียนการสอนมหาวิทยาลัยรังสิต, 17(2), 206-221.
สิทธิโชค เสนาะน้อย. (2565). ทุนการศึกษา; โอกาส ความเหลื่อมล้ำ ความซ้ำซ้อน: บริหารทุนการศึกษาอย่างไรให้เกิดความเสมอภาค. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย, 4(2), 47-54.
อดิศักดิ์ มิดดี้, ณัฐพล ผู้เทียมใจ และดร.ไสว ศิริทองถาวร. (1 พฤษภาคม 2563). สาเหตุการออกกลางคันของนักศึกษาสาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม. การประชุมวิชาการสำหรับนักศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3. คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
Arishaba, E. (2024). Teaching and learning in secondary schools using social learning theory. Journal of Research Innovation and Implications in Education. 8(1), 242-247.
Awang Long, Z., & Mohd Noor, M. F. (2023). Factors influencing dropout students in higher education. Education Research International, Article 7704142.
Danielle, E. (2020). Educational management theories: Application and implications. American Journal of Educational Research, 8(6), 356-362.
Dewey, J. (2015). Applicability of constructivist theory in qualitative educational research. International Journal of Educational Research, 67, 1-9.
Doe, J. (2020, January 15). What are the most common educational management theories. LinkedIn. https://www.linkedin.com/advice/1/what-most-common-educational-management-theories-management-advice.
Kaya Yilmaz. (2011). The Cognitive Perspective on Learning: Its Theoretical Underpinnings and Implications for Classroom Practices. The Clearing House, 84, 204-212.
Singh, R., & Krishnan, R. (2021). Educational management theories and practices: A systematic review. Frontiers in Education, 6, Article 646298.