การพัฒนาบุคลากรด้านการให้บริการของธุรกิจสปา เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

Main Article Content

สินีนาถ เริ่มลาวรรณ

บทคัดย่อ

            การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการให้บริการของบุคลากรของธุรกิจสปา 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคทางด้านคุณภาพการให้บริการของบุคลากรของธุรกิจสปา และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการให้บริการของธุรกิจสปา เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วย การวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร ได้แก่ ผู้เคยใช้บริการธุรกิจสปา ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนจึงได้กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยสูตรการคำนวณ ระดับความเชื่อมั่นที่ 95% ความผิดพลาดไม่ เกิน 5% และสัดส่วนของประชากร เท่ากับ 0.50 ทำให้ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 20 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจสปา จำนวน 10 ราย และพนักงานผู้ให้บริการในธุรกิจสปา จำนวน 10 ราย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา


            ผลการวิจัยพบว่า


  1. การให้บริการของบุคลากรของธุรกิจสปา ประกอบด้วย ความเป็นรูปธรรมของบริการ การตอบสนองต่อลูกค้า การให้ความเชื่อมั่นต่อลูกค้า ความเชื่อถือไว้วางใจได้ การรู้จักและเข้าใจลูกค้า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด  มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.09

  2. 2. ปัญหาและอุปสรรคทางด้านคุณภาพการให้บริการของบุคลากรของธุรกิจสปา พบว่า การขาดแคลนพนักงานสปาที่มีฝีมือและมีใบรับรองมาทำงาน การใช้ภาษาต่างประเทศของพนักงาน ไม่มีความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ และปัญหาด้านการควบคุมคุณภาพในการบริการ

  3. แนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการให้บริการของธุรกิจสปา เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ได้แก่ การพัฒนาภาษาต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการและพนักงานผู้ให้บริการในธุรกิจสปา ผู้ประกอบการธุรกิจสปาจะต้องได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการสปาเพื่อสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุข การพัฒนาพนักงานผู้ให้บริการให้มีความรู้ในศาสตร์ด้านสปาอย่างแท้จริง และการพัฒนาในเรื่องของคุณภาพการให้บริการที่ดีให้กับพนักงาน

 

Article Details

How to Cite
เริ่มลาวรรณ ส. (2024). การพัฒนาบุคลากรด้านการให้บริการของธุรกิจสปา เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน. วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการสื่อสาร, 7(3), 89–104. https://doi.org/10.14456/issc.2024.46
บท
บทความวิจัย

References

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2564). รายงานสภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2567, จากhttps://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=411.

กันยาวีร์ เมฆีวราพันธุ์ (2556). ตัวแบบการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจสปา ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, 4(2), 90-103.

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2559). ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ.2560-2569. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษจิกายน 2566, จาก https://hss.moph.go.th/fileupload/2560-102.pdf

ชนิตา เดชวิทยานุศักดิ์. (2555). การบริหารจัดการบริการสปาเพื่อสุขภาพในจังหวัดภูเก็ต. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต, 8(2), 100-101.

ธนพงษ์ ร่วมสุข. (2564). กรณีศึกษาการจัดการความเสี่ยงในธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019. วารสารสหศาสตร์ศรีปทุม ชลบุรี, 7(2), 34-51.

ณัฐพล ลีลาวัฒนาพันท์. (2559). การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม-มีนาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2566, จาก http://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=7622.

เบญจวรรณ ศฤงคาร และสันติกร ภมรปฐมกุล. (2563). การศึกษาความแตกต่างระหว่างคุณลักษณะของผู้ประกอบการกับมาตรฐานการให้บริการของธุรกิจสปาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารเครือข่ายส่งเสริมการวิจัยทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 3(2), 43-55.

ภักดี กลั่นภักดี, อัศวิน แสงพิกุล และศิริเดช คำสุพรหม. (2563). การพัฒนาธุรกิจสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพระดับสากลในประเทศไทยสู่ความยั่งยืน. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29(6), 1147-1156.

มัลลิกา บุนนาค. (2537). สถิติเพื่อการตัดสินใจ (พิมพ์ครั้งที่ 2). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.

ยศวดี แขวัฒนะ และเสาวนีย์ สมันตรีพร (2558). การพัฒนาธุรกิจสปาสู่ความยั่งยืน: วิธีการทางจิตวิทยาสู่ความยั่งยืน.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, 4(1), 174-84.

สารี ประชุมดี และทศพล ลือชาพัฒนพร. (2562). คุณภาพการให้บริการของร้านสปาที่มีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการศรปทุม ชลบุรี, 16(1), 133-142.

แสงอรุณ วรากุลศิริศักดิ์ และอุมาวรรณ วาทกิจ. (2564). คุณภาพการบริการที่มีความสัมพันธ์กับการสื่อสารแบบบอกต่อของธุรกิจสปา ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 11(1), 87-99.

สุณีย์ ล่องประเสริฐ. (2557). การพัฒนามาตรฐานธุรกิจสปาในเกาะสมุยสู่ชุมชนเศรษฐกิจอาเซียน. วารสารวิทยาการจัดการ, วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 1(1), 25-141.

เอกนันท์ ทองแย้ม. (2561). การศึกษาปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเลือกใช้ธุรกิจสปา. วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 1(3), 49-55.

Basheer Abbas Al-alak Ghaleb Awad EL-refae, The Relationships between Service Quality, Satisfaction, and Behavioral Intentions of Malaysian Spa Center Customers. International Journal of Business and Social Science, 3(1), 20- 34.

Cochran, W. G. (1953). Matching in analytical studies. American Journal of Public Health and the Nations Health, 43(6), 684-691.

Lagrosen, Y., & Lagrosen, S. (2016). Customer perceptions of quality–a study in the SPA industry. European Business Review, 28(6), 657-675.

Latham, G. and Wexley, K. (1991). Developing and Training Human Resources in Organization. Harper Collins Publishers.

Lee, H., Lee, Y., & Yoo, D. (2000). The determinants of perceived service quality and its relationship with satisfaction. Journal of services marketing, 14(3), 217-231.

Mondy, R. W., & Noe, R. M. (1996). Human Resource Management (Edisi VI).

Swanson, R. A. (1995). Human resource development: Performance is the key. Human resource development quarterly, 6(2), 207-213.

Trihas, N., & Konstantarou, A. (2016). Spa-goers’ characteristics, motivations, preferences and perceptions: Evidence from Elounda, Crete. Almatourism-Journal of Tourism, Culture and Territorial Development, 7(14), 106-127.

Vryoni, S., Bakirtzoglou, P., & Ioannou, P. (2017). Customers’ satisfaction and service quality of spa centers in Greece. Acta Kinesiologica, 11(1), 12-18.

Zeithaml, V., Parasuraman, A., & Berry, L. (1990). Balancing Customer Perceptions and Expectations. Ed. Free Press. EE. UU.