The Study of creative artworks and self esteem by Art activites based on STEAM Education of Students’ Grade Four The Study of creative artworks and self esteem by Art activites based on STEAM Education of Students’ Grade Four

Main Article Content

Panarat Pimpat
Asst Prof.Dr.

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลการประเมินผลการสร้างสรรค์งานศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษา (STEAM Education) 2) เพื่อศึกษาการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษา (STEAM Education) 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษา (STEAM Education) กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนซึ่งกำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่   4/2  ปีการศึกษา 2564  จำนวน 33 คน และครูประจำวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลปะ คณิตศาสตร์ โรงเรียนบ้านเกริงกระเวีย ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบประเมินการ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ 2) แบบประเมินการเห็นคุณค่าในตนเอง 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมฯ ผลการวิจัยพบว่า ผลประเมินการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษา (STEAM Education ) โดยภาพรวม นักเรียนมีผลคะแนนเฉลี่ยผลการประเมินการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอยู่ในระดับดี (  = 2.84   S.D. = 0.10 ) การเห็นคุณค่าในตนเอง อยู่ในระดับดี  (   = 2.66 , S.D. = 0.09 ) ผลระดับความพึงพอใจจากการร่วมกิจกรรม อยู่ในระดับมาก (  = 2.63 ,S.D. = 0.37)   

Article Details

Section
บทความวิจัย (Research Articles)

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ:

ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด

เจนจิรา สันติไพบูลย์. (2560). การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวคิด STEAM ร่วมกับการสอนเชิงผลิตภาพเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการและความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 46(3). 69-85.

ชลูด นิ่มเสมอ. (2559). องค์ประกอบของศิลปะ. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: อมรินทร์.

ชัยวัฒน์ วงศ์อาษา. (2539). ผลการฝึกอบรมที่ต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นประถมปีที่ 5.

ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. สถาบันวิจัย

พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.

เชษฐา ผาจันทา. ปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิขาศิลปศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน

มัธยมศึกษากรมสามัญศึกษา จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ (กศ.ม.เทคโนโลยีทางการศึกษา)

– มหาวิทยาลัย มหาสารคาม, 2541

บุญเกื้อ ควรหาเวช. (2543). นวัตกรรมการศึกษา. กรุงเทพฯ: หจก. SR Printing.

บุญยนุช สิทธาจารย์. (2560). การพัฒนาชุดการสอนศิลปะตามแนวคิดสะตีมศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาศิลปศึกษา, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

ทัศณียา บัวภา. (2556). ความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย, มหาวิทยาลัยศร

นครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.

ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภารดี กำภู ณ อยุธยา. (2550). ผลของโปรแกรมศิลปะบำบัดสำหรับกลุ่มต่อการเห็นคุณค่าในตนเอง

ของเด็กอายุ 9-11 ปี. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

มะลิฉัตร เอื้ออานันท์. (2543). การเรียนการสอนและประสบการณ์ด้านสุนทรียภาพและศิลปวิจารณ์.

กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

มะลิฉัตร เอื้ออานันท์.. (2545). ศิลปศึกษาแนวปฏิรูปฯ : ความเป็นมา ปรัชญาหลักการ วิวัฒนาการ

ด้าน หลักสูตร ทฤษฎีการเรียนการสอน และการค้นคว้าวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ศูนย์ตำราและ เอกสารทางวิชาการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ยลรวี โรจน์ทอง. (2556). การศึกษาการเปรียบเทียบความภาคภูมิใจในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. สาขาวิชาจิตวิทยาการแนะแนว, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา

เลิศ อานันทนะ. (2523). ศิลปะในโรงเรียน. กรุงเทพฯ: กราฟิคอาร์ต.

วิสูตร โพธิ์เงิน. (2556). ศิลปะสำหรับเด็ก. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วิสูตร โพธิ์เงิน. (2559). STEAM ศิลปะเพื่อสะเต็มศึกษา: การพัฒนาการรับรู้ความสามารถและแรงบันดาลใจให้เด็ก. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 45 (1). 320-324.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2556). จิตวิทยาการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เสาวณี แกสมาน. (2545). การสอนแบบ "บูรณาการ" : การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2551) ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.[สื่ออิเล็กทรอนิกส์],สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2562. จาก https://elibrary.ksp.or.th/index.php?lvl=notice_display&id=16439

ภาษาอังกฤษ

Sousa, D. A. & Pilecki, T. J. (2003). From STEM to STEAM: Using Brain-Compatible

Strategies to Integrate the Arts. Thousand Oaks, California : Corwin Press, a SAGE Company.

Guy,A. B. (2013). From STEM to STEAM: Toward A Human-Centred Education,

Creativity & Learning Thinking. in Papers. European Conference on Cognitive

Ergonomics, (ECCE 2013). France: Toulouse.

HenriksenFull D. (2014). STEAM Ahead: Creativity in Excellent STEM Teaching

Practices The STEAM Journal. 1, (2), 15