รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของครูในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาโดยใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

Main Article Content

ถวิล หวังกุ่ม
ศิริวรรณ วณิชวัฒนวรชัย
ชนสิทธิ์ สิทธิ์สูงเนิน
ไชยยศ ไพวิทยศิริธรรม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการพัฒนาวิชาชีพ และ 2) พัฒนารูปแบบการพัฒนาวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของครูในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาโดยใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยดำเนินการวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบ เครื่องมือวิจัย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร และข้อมูลจากบุคคลที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และผู้บริหารสถานศึกษา 18 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง และครู 76 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 313 คน โดยใช้แบบสอบถาม ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบด้วยการนำข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่ 1 มาใช้ในการร่างรูปแบบและหาคุณภาพของรูปแบบด้วยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เครื่องมือวิจัยเป็นประเด็นสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า


  1. ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพควรใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาครูในด้านการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาที่มีการบูรณาการอัตลักษณ์ท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ วิเคราะห์ข้อมูลและความต้องการ กำหนดเป้าหมายร่วมกัน วางแผนและเลือกเทคนิคการพัฒนา ดำเนินการพัฒนาผ่านการโค้ชและให้คำปรึกษา และประเมินและสะท้อนผล

  2. รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพเป็นการดำเนินการอย่างเป็นระบบของครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนาครูให้มีสมรรถนะในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียน 2) วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาครูให้มีความสามารถในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาโดยใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่น และเพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียน 3) กระบวนการพัฒนาวิชาชีพ 5 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 ร่วมกันศึกษาวิเคราะห์ปัญหา ขั้นที่ 2 ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ขั้นที่ 3 ร่วมกันเลือกวิธีการพัฒนาวิชาชีพ ขั้นที่ 4 ร่วมใจพัฒนาวิชาชีพ ขั้นที่ 5 ร่วมมือกันประเมินผล 4) การวัดและประเมินผล สมรรถนะการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาของครูและความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียน และ 5) ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิชาชีพโดยทำให้เกิดความร่วมมือของครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา และครูต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบนวัตกรรมการศึกษา การโค้ชและการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองได้ นอกจากนี้ผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่ารูปแบบฯ ที่พัฒนาขึ้นนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้เพื่อส่งเสริมให้ครูนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาสร้างนวัตกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของผู้เรียนได้

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช พ.ศ. 2551. กรุงเทพฯ: องค์การค้ารับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

เขตต์อรัญ ธรรมรักษ์. (2562). หลักการและรูปแบบการพัฒนาวิชาชีพครูที่ประสบผลสำเร็จ. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 1 (2), 67-74.

ฆนัท ธาตุทอง. (2551). การออกแบบการสอนและบูรณาการ. นครปฐม: เพชรเกษมการพิมพ์.

ทิศนา แขมมณี. (2562). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 23). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นัทธนัย ประสานนาม. (2552). เพศ ชาติพันธุ์และปัญหาเกี่ยวกับอัตลักษณ์ในภาพยนตร์เรื่อง Touch of Pink. ค้นเมื่อ 10 มกราคม 2564, จาก http://www.midnightuniv.org/midnight2545/ document95248.html

บุญชอบ จันทาพูน, สุวดี อุปปินใจ, สมเกียรติ ตุ่นแก้ว และไพรภ รัตนชูวงศ์. (2561). กลยุทธ์การเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับครูโรงเรียนเทศบาล 1 ต้นยาง จังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, 13 (2), 17-27.

ประสิทธิ์ ลีปรีชา. (2547). การสร้างและสืบทอดอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งในวาทกรรมอัตลักษณ์. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.

ปัณณทัต จำปากุล. (2565). ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ: วิถีแห่งการพัฒนาครูยุคดิจิทัล. วารสารจัดการและพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยพิบูลสงคราม, 2 (2), 57-73.

พนิดา จารย์อุปการะ และมาเรียม นิลพันธุ์. (2558). รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการโค้ช. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 8 (2), 532-543.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). เติบโตเต็มตามศักยภาพสู่ศตวรรษที่ 21 ของการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภัสรำไพ จ้อยเจริญ, ปนัฐษรณ์ จารุชัยนิวัฒน์ และศิริเดช สุชีวะ. (2566). รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพครูประจำการเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กวัยอนุบาล. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 17 (3), 99-111.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2558). วิธีวิจัยทางการศึกษา. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

มาเรียม นิลพันธุ์ และศิริวรรณ วณิชวัฒนาวรชัย. (2557). การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

รุจิราพร รามศิริ และมาเรียม นิลพันธุ์. (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัย ทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. Silpakorn Educational Research Journal, 7 (1), 110-122.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.

วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2562). ทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรม. ค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2562, จาก http://www.curriculumandlearning.com

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี. (2564 ก). ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ปีการศึกษา 2564. กาญจนบุรี: กลุ่มนโยบายและแผน หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี.

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี. (2564 ข). ยุทธศาสตร์พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. 2563-2567 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564). ค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2565, จาก https://kansand box.org/wp-content/uploads/2022/06/ยุทธศาสตร์พื้นที่นวัตกรรม64กาญจนบุรี.pdf

สุมณฑม จุลชาต และวิสาข์ จัติวัตร์. (2556). การพัฒนารูปแบบการพัฒนาวิชาชีพแบบร่วมมือโดยเน้นครูเป็นสำคัญเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูโรงเรียนประถมศึกษา. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5 (2), 113-133.

อารี สัณหฉวี. (2561). พัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อชุมชนแห่งการเรียนรู้: คู่มือปฏิรูปโรงเรียนที่ยั่งยืน. กรุงเทพฯ: ปิโก้.

อินทิรา พงษ์นาค และศุภกรณ์ ดิษฐพันธุ์. (2558). อัตลักษณ์ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 8 (3), 511-523.

DuFour, R. (2001). Professional learning communities: A bandwagon, an idea worth considering, or our best hope for high levels of learning. Middle School Journal (J1), 39 (1), 4-8.

Edutopia. (2024). Cultivating creativity in students and teachers. Retrieved 5 May 2024, from https://www.edutopia.org

Glickman, C. D., Gordon, S. P. & Ross-Gordon, J. M. (2010). Supervision and instructional leadership: A developmental approach (8th ed.). MA: Allyn and Bacon.

Hall, S. & du Gay, P. (1996). Questions of cultural identity. London: Sage Publications.

Hord, S. M. (1997). Professional learning communities: Communities of continuous inquiry and improvement. Retrieved 20 February 2022, from http://www.sedl.org/pubs/chang34/plc-cha34.pdf

Hord, S. M., Roussin, J. L. & Sommers, W. A. (2009). Guiding professional learning communities: Inspiration, challenge, surprise, and meaning. Thousand Oaks, CA: Corwin Press.

Knowles, M. S. (1990). The adult learner: A neglected species (4th ed.). Houston: Gulf Publishing.

Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology, 22 (140), 1-55.

Loucks-Horsley, S., Hewson, P. W., Love, N. & Stiles, K. (1998). Designing professional development for teachers of science and mathematics. Thousand Oaks, CA: Corwin Press.

OECD. (2008). Improving school leadership. Volume 1: Policy and practice. Retrieved 25 March 2024, from https://doi.org/10.1787/9789264044711-en

Reimers, E. V. (2003). Teacher professional development: An international review of the literature. Paris: IIEP’s Print Shop.

Rogers, E. M., Singhal, A. & Quinlan, M. M. (2014). Diffusion of innovations. New York, NY: Routledge.

Rolfe, M. (2012). Voter turnout: A social theory of political participation. Cambridge: Cambridge University Press.

Seashore, K. R., Anderson, A. R. & Riedel, E. (2003). Implementing arts for academic achievement: The impact of mental models, professional community and interdisciplinary teaming. Retrieved 27 February 2024, from https://hdl.handle.net/11299/143717

Shibiru, T. & Bekele, M. (2024). Leading change and innovation effectively in secondary schools: A literature review. International Journal of Secondary Education, 12 (3), 68-74.

Showers, B., Joyce, B. & Bennett, B. (1987). Synthesis of research on staff development: A framework for future study and a state-of-the-art analysis. Educational Leadership, 45 (3), 77-87.

Sparks, P. & Loucks-Horsley, S. (1989). Five models of staff development for teacher. Journal of Staff Development, 10 (4), 40-57.

Stoll, L. & Louis, K. S. (2007). Professional learning communities: Elaborating new approach Professional learning communities: Divergence. Depth and dilemmas, 6 (12), 1-13.

The Partnership for 21st Century Learning. (2018). Framework for 21st century learning. Retrieved 1 March 2024, from http://www.p21.org/storage

Trilling, B. & Fadel, C. (2012). 21st century skills: Learning for life in our times. San Francisco, CA: John Wiley & Sons.