ศักยภาพของลวดลายผ้าที่สะท้อนอัตลักษณ์ทะเลอันดามัน: การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยสู่สากล
DOI:
https://doi.org/10.69598/sbjfa281765คำสำคัญ:
ลวดลายผ้า, การออกแบบ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์, การประเมินติดตามผล, การดำเนินการในพื้นที่จริง, ทะเลอันดามัน, เศรษฐกิจสร้างสรรค์, ผู้บริโภคชาวต่างชาติบทคัดย่อ
บทความนี้มุ่งนำเสนอประสิทธิผลของการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากลวดลายผ้าที่สะท้อนอัตลักษณ์ใต้ท้องทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของงานวิจัย “การศึกษาอัตลักษณ์ใต้ท้องทะเลอันดามันเพื่อพัฒนาลวดลายผ้าและยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยสู่สากล” โดยเน้นการปฏิบัติการจริง ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการ การสื่อสารเรื่องราว และการทดลองจำหน่าย วิธีดำเนินการวิจัยใช้ระเบียบวิธีแบบผสมผสาน (mixed methods) เก็บข้อมูลภาคสนามจากพื้นที่การค้าจำนวน 3 แห่งในประเทศไทยและ 1 แห่งในประเทศจีน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย (1) แบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมของผู้บริโภค (2) การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (semi-structured interviews) เพื่อเจาะลึกทัศนคติและประสบการณ์ของผู้ซื้อ และ (3) การสังเกตการณ์ (participant observation) เพื่อบันทึกพฤติกรรมการเลือกซื้อและปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์จริง ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มผู้ซื้อรวม 70 คน แบ่งเป็นชาวไทย 8 คน (11.43%) และชาวต่างชาติ 62 คน (88.57%) ซึ่งมาจากหลายประเทศ อาทิ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และตะวันออกกลาง ลวดลายที่ได้รับความนิยมสูงได้แก่ ลวดลายใต้ท้องทะเลอันดามันใต้และลวดลายปลาพื้นหลังสีขาว ประเภทสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือผ้าพันคอ กระเป๋า และเสื้อยืด โดยเฉพาะลวดลายแมนต้า ฉลามวาฬ และเต่าทะเล อีกทั้งผู้ซื้อส่วนใหญ่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์มากกว่าหนึ่งประเภทต่อครั้ง สะท้อนถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์ของผลิตภัณฑ์ ผลสรุปการวิจัยนี้ม่เพียงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้อย่างมีนัยสำคัญ หากยังสะท้อนมุมมองและความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มผู้ซื้อ การติดตามและประเมินผลในพื้นที่จริงจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยืนยันถึงความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และคุณค่าเชิงปฏิบัติของงานวิจัย อันนำไปสู่การสร้างโอกาสในการต่อยอดเชิงพาณิชย์และการพัฒนาที่ยั่งยืน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Hekkert, P. (2006). Design aesthetics: principles of pleasure in design. Psychology science, 48(2), 157.
Pedroso-Roussado, C. (2023). Investigating the limitations of fashion research methods in applying a sustainable design practice: a systematic review. Preprints. org, 202310, v2.
Pine, B. J., & Gilmore, J. H. (1999). The experience economy.
Soini, K., & Birkeland, I. (2014). Exploring the scientific discourse on cultural sustainability. Geoforum, 51, 213-223.
Zou, Y., Pintong, S., Shen, T., & Luh, D. B. (2022). Evaluation and trend of fashion design research: visualization analysis based on CiteSpace. Fashion and Textiles, 9(1), 45.
พิริยะ ผลพิรุฬห์. (2556). เศรษฐกิจสร้างสรรค์กับการพัฒนาประเทศไทย. วารสารเศรษฐศาสตร์ปริทรรศน์ สถาบันพัฒนศาสตร์. 7(1), 1-70
ภิญญลัคน์ วีรภัทรรัตน์วรา. (2557). การพัฒนาชุมชนโดยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ : กรณีศึกษาชุมชนตลาดบ้านใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์ และสังคม บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กทม
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์. (2565). รายงานการศึกษาแผนพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ปี 2565: สินค้าแฟชั่น. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2568. จาก https://www.cea.or.th/en/single-industries/Creative-Industries-Development-Report-2022-Fashion
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Nuttida Pujeeb, Guoxiang Yuan, Qingxin Peng

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution 4.0 International License.
บทความนี้อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ CC BY 4.0
ทัศนะและข้อคิดเห็นในบทความเป็นของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้อง และไม่รับผิดชอบต่อข้อคิดเห็นเหล่านั้น




