ความหมายสองนัยของ“อโหสิกรรม”
คำสำคัญ:
อโหสิกรรม, เวร, ชวนจิต, วิถีจิต, นิพพานบทคัดย่อ
บทความนี้ศึกษาความหมายของอโหสิกรรมในสองนัย คือนัยที่เป็นความเชื่อทางสังคมและนัยที่เป็นคำสอนในพุทธศาสนาเถรวาท อโหสิกรรมในฐานะเป็นความเชื่อทางสังคมหมายถึงการขออภัยต่อความสัมพันธ์เชิงลบและสิ้นสุดเวรที่กระทำต่อกัน ส่วนอโหสิกรรมในฐานะเป็นคำสอนพุทธศาสนาอาจหมายถึงกรรมที่ส่งผลเรียบร้อยแล้วหรือกรรมที่หมดโอกาสส่งผลก็ได้ โดยกรรมที่หมดโอกาสส่งผลนั้นเมื่อพิจารณาตามคำสอนเรื่อง 17 ขณะรับรู้ทางจิตและ 7 ชวนวิถีจิตในพระอภิธรรม เราพบว่า อโหสิกรรมเป็นไปได้เมื่ออธิบายการรับผลของกรรมตามกรอบเวลาในการส่งผล กรรมใดกรรมหนึ่งซึ่งมีกำลังแห่งเจตนารุนแรงพร้อมให้ผลทันทีในเวลานั้นสามารถเป็นอโหสิ ถ้ามีเหตุปัจจัยที่มีกำลังมากกว่าเข้ามาขัดขวางกระบวนการส่งผลของมัน และกรรมใดกรรมหนึ่งซึ่งมีกำลังแห่งเจตนารุนแรงที่รอคอยจะให้ผลในอนาคตชาติถัดไปสามารถเป็นอโหสิ ถ้ามีเหตุปัจจัยที่มีกำลังมากกว่าเข้ามาขัดขวางกระบวนการส่งผลของมัน เหตุปัจจัยที่มีกำลังสูงสุดซึ่งทำให้กรรมเป็นอโหสิได้คือการบรรลุนิพพาน
Downloads
References
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต). (2538). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. กรุงเทพฯ:
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต). (2543). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาไกรวรรณ ชินทตฺติโย (ปุณขันธ์). (2546). การศึกษาวิเคราะห์บทบาทของพระเทวทัตที่ปรากฏ
ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา,
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).
พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ. (2553). ปรมัตถโชติกะ ปริจเฉทที่ ๑-๒-๖ จิต เจตสิก รูป นิพพาน.
กรุงเทพฯ: มูลนิธิสัทธัมมโชติกะ.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๑. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๙. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๑๓. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๓๑. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๓๒. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2552). อรรถกถาภาษาไทย ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2552). อรรถกถาภาษาไทย ขุททกนิกาย อปทาน ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๑. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2552). อรรถกถาภาษาไทย ธรรมบท ขุททกนิกาย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๑. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2557). อรรถกถาภาษาไทย ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหามกุฏราชวิทยาลัย. (2536). ขุททกนิกาย ธรรมบท ภาค ๑ ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย.
มหามกุฏราชวิทยาลัย. (2543). วิสุทธิมรรค แปล ภาค 3 ตอนจบ ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย.
กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย.
มูลนิธิภูมิพโลภิกขุ. (2560). พจนานุกรมบาลี-ไทย ฉบับภูมิพโลภิกขุ. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์มูลินิธิภูมิพโลภิกขุ,
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ:
นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์.
สุกัญญา โกติกาล. (2554). การศึกษาวิเคราะห์เรื่องอโหสิกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท.
(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา,
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).
สุจินต์ บริหารวนเขตต์. (2536). ปรมัตถธรรมสังเขป จิตตสังเขป และภาคผนวก. กรุงเทพฯ:
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
สุมาลี มหณรงค์ชัย. (2565). “เจตนา” และ “กรรม” ในพุทธศาสนาเถรวาท. วารสารพุทธศาสน์ศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 29(3): 1-28.
อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ๗ กรรมกถา. (ไม่ปรากฏปีพิมพ์). สืบค้นจาก
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=523.
Secret Magazine (Thailand). (2021). การขอ “อโหสิกรรม” คืออะไร. สืบค้นจาก
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว