Principles of Financial Management for Buddhist Monasteries: An Analysis and Synthesis from Vinaya and Good Governance
Keywords:
Buddhist monastery money, Vinaya, Good governanceAbstract
The research aims to analyze the principles of property management given in the Vinaya and the good governance to synthesize the principles of financial management for Buddhist monasteries in the aspects of responsible person, revenue, payments, and savings. The research finds that regulations concerning the abbot, who is the legal representative of the monastery and the authoritative person regarding its property, should be supplemented with certain traditions, i.e., monastic rules and Sangha governance in the Vinaya.The people in charge of financial management should form a committee of monastery or foundation members, which consists partly of donors.Revenue should be based on documented donations according to the monastery’s capacity. Expenses should be for worthwhile causes and should correspond to the donor’s will. Management of the savings should follow parameters set up by the committee, and a part of the savings should be set aside as fund for monasteries in need. The study clearly shows that the monastic rules and the Sangha governance in the Vinaya will help to make the abbot’s executive work more effective and transparent.
Downloads
References
พระไตรปิฎกฉบับหลวง สืบค้นจากโปรแกรม E-Tipitaka 3.1.3
กฤติน จันทร์สนธิมา. (2557). การบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดในพระพุทธศาสนา : ศึกษาเฉพาะกรณีเงินบริจาค. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์)
เกริกเกียรติ ไพบูลยศิลป. (2557). พุทธศาสนากับพระมหากษัตริย์ไทย พ.ศ. 2310-2394. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
ชาญณรงค์ บุญหนุน. (2548). “กฎพระสงฆ์ในกฎหมายตราสามดวง” ใน พระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์กับสังคมไทย. รายงานการวิจัย จัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 1-152.
ณดา จันทร์สม. (2555). การบริหารการเงินของวัดในประเทศไทย. รายงานการวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
นภนาท อนุพงศ์พัฒน์. (2546). ผลกระทบของพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121ต่อการปกครองคณะสงฆ์ไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
ปลื้ม โชติษฐยางกูร. (2550). คำบรรยายกฎหมายคณะสงฆ์. (พิมพ์ครั้งที่ 1) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิสิษฐ์ นภาธนาสกุล. (2551). ปัญหาข้อกฎหมายในการบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัด. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา สืบค้นจาก http://openbase.in.th/http%3A/%252Fwww.panyathai.or.th/wiki/index.php/ปัญหาข้อกฎหมายในการบริห%25
ภิรมย์ จั่นถาวร. (2544). ยุทธศาสตร์การจัดการการเงินของวัด. รายงานการวิจัย สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วไลลัคน์ เวชนุเคราะห์. (2534). ระบบการเงินของสงฆ์. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2561). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. สืบค้นจาก
https://www.watnyanaves.net/th/book_detail/268
สมบูรณ์ วชิรบูรณ์สุข. (2551). การควบคุมการใช้อํานาจตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 โดยศาลปกครอง. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สมพรนุช ตันศรีสุข. (2564). “การควบคุมการใช้อำนาจบริหารงานของเจ้าอาวาสโดยจารีตประเพณี,” หน้า 161-178 ใน รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการระดับชาติ “ธรรมศาสตร์ – นิติพัฒน์” ครั้งที่ 6 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สมศักดิ์ สามัคคีธรรม. (2565) ธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบทางสังคม. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. คู่มือพระสังฆาธิการ. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพมหานคร: สถาบันพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ระบบทะเบียนวัด. http://binfo.onab.go.th/Temple/Dashboard.aspx สืบค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2565.
สุนทร มณีสวัสดิ์. (2531). สถานะทางกฎหมายของวัดไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).
อุทิศ จึงนิพนธ์สกุล. (2525). เศรษฐกิจวัดในกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2325-2453). (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2023 Chulalongkorn University Centre for Buddhist Studies
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว