วิเคราะห์เหตุผลหลักพิจารณาความเชื่อในกาลามสูตร
คำสำคัญ:
กาลามสูตร, วิเคราะห์, เหตุผล, หลักพิจารณา, ความเชื่อบทคัดย่อ
อย่าปลงใจเชื่อ 10 ประการ พระพุทธเจ้าตรัสแก่ชาวกาลามะ พร้อมแสดงเหตุผลหลักพิจารณาความเชื่อ บทความนี้ต้องการศึกษาหาแก่นแท้ในหลักพิจารณาความเชื่อ 10 ประการ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส ในข้อชวนศึกษาถึงแก่นแท้ในหลักพิจารณาความเชื่อนี้ จากการศึกษาการวิเคราะห์เหตุผล ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต หมวดพระสูตร มหวรรค หมวดว่าด้วยเรื่องใหญ่ หัวข้อธรรม “เกสปุตติสูตร ว่าด้วยกาลามะ ชาวเกสปุตตนิคม” ว่าด้วยหลักความเชื่อที่สำคัญ 10 ประการ จากการศึกษาพบว่า แก่นแท้ในหลักความเชื่อที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเน้นเรื่อง (1) หลักพิจารณาว่า ธรรมใดเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล มีโทษหรือไม่มีโทษ เป็นสิ่งที่ควรติเตียนหรือควรสรรเสริญ เกื้อเพื่อก่อให้เกิดทุกข์หรือเกื้อให้เกิดสุขหรือไม่ สาเหตุนำไปสู่ผลของทุกข์ คือ โลภะ โทสะ โมหะ อภิชฌา ทิฎฐิ และมิจฉาทิฎฐิ สาเหตุนำไปสู่ผลของสุข คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ความไม่มีอภิชฌา ความไม่เบียดเบียน ความมีพรหมวิหาร 4 และความยิ่งใหญ่ซึ่งดำเนินไปด้วยความมีฉันทะ วิริยะ จิตตะ อีกทั้งปัญญาอย่างใหญ่ บาลีเรียกว่า มหัคคตะ (2) หลักเหตุผลที่พระพุทธเจ้าอธิบายธรรมแก่ชาวกาลามะ เพื่อความเจริญแห่งปัญญาให้เป็นผู้ฟังที่บังเกิดมีปัญญามากด้วยหลักอย่าเชื่อ คือการยึดหลักธรรม สัปปุริสสังเสวะ สัทธัมมัสสวนะ โยนิโสมนสิการ ซึ่งเป็นข้อสำคัญในการพิจารณาโดยแยบคายจากการใช้ความคิดถูกวิธี มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสายด้วยการแยกแยะออกวิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดยอุบายวิธี ให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งปัจจัยยึดหลักธัมมานุธัมมปฏิปัตติ คือ ธรรมที่ถึงเฉพาะลักษณะของธรรมซึ่งนำไปสู่การรู้แจ้งโลกุตตรธรรม หรือถึงการดับกิเลส (3) หลักการพิจารณาในการเลือกเฟ้นธรรมยึดหลักพิจารณาในวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการเป็นภาคปฏิบัติในหลักข้ออย่าเชื่อทั้ง 10 ประการ
ในบทความนี้ได้ยกตัวอย่างพระสูตรในพระไตรปิฎกมาแสดงในการวิเคราะห์ข้ออย่าเชื่อ ทั้ง 10 ประการเพื่อเห็นถึงสติที่เป็นความระลึกได้ นึกได้ ความไม่เผลอ การคุมใจได้ คุมจิตได้กับสิ่งที่เกี่ยวข้องในการกระทำทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจได้เป็นอย่างดียิ่ง และเพื่อให้เกิดความไม่ประมาทในการใช้ปัญญาซึ่งหากเชื่อโดยไม่พิจารณาอย่างแยบคายก็นำไปสู่ผลของทางแห่งบาปอย่างหยั่งลึกได้
Downloads
เอกสารอ้างอิง
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.(2539).พระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ชุด 45 เล่ม ใช้อ้างอิง เล่ม 12. เล่ม 13. เล่ม 14. เล่ม 19. เล่ม 20. เล่ม 23. เล่ม 25. เล่ม 34. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.(2557).อรรถกถา ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย พระพุทธโฆสเถระรจนา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.(2557). อรรถกถา ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ขุททกนิกาย สุตตนิบาต. พระพุทธโฆสเถระรจนา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2559). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2559).พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตตโต),(2557) พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย,กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
รามิล กาญจันดา.(2547). การศึกษาวิเคราะห์หลักความเชื่อในกาลามาสูตร. วารสารพุทธศาสน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.11 (2) 5-8
พระมหาปรทัตติ ยาทองไชย (2561). ความขัดแย้งการตีความปิฎกศัพท์ในกาลมาสูตร.วารสารสห วิทยาการมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์.1 (1) 1-4
พระครูปลัดรังสรรค์ คุณสาโร,ดร. (2559). กาลามสูตร หลักพิจารณาก่อนเชื่อในพุทธปรัชญาเถรวาท. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด.5 (2) 7-11
https://dictionary.sanook.com/พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน.
https://dictionary.orst.go.th/พจนานุกรมฉบับบราชบัณฑิตยสถาน 2554.
https://www.khaosod.co.th/สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.9), พุทธวิธีในการสอน.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว