การสอนแบบอุปมาอุปไมยในพระพุทธศาสนา
คำสำคัญ:
การสอน, อุปมาอุปไมย, พระพุทธศาสนาบทคัดย่อ
การสอนแบบอุปมาอุปไมยในพระพุทธศาสนาเป็นการใช้โวหารทางภาษาเพื่ออธิบายหลักธรรมะ โดยมีหลัก ๒ อย่างเหมือนกันทุกสมัย คือ ธัมมาธิษฐาน และ ปุคคลาธิษฐาน มาอธิบายธรรมะ โดยการนำสิ่ง ๒ สิ่งมาเปรียบเทียบกัน คือ๑. อุปมา=นามธรรม = ธัมมาธิษฐาน ๒. อุปไมย = รูปธรรม = ปุคคลาธิษฐาน การสอนแบบอุปมาอุปไมยในพระพุทธศาสนาประสพผลสัมฤทธิ์ได้ในระดับโลกิยะและผลสัมฤทธิ์ในระดับโลกตุตระ และสามารนำมาประยุกต์ใช้ในสมัยปัจจุบันที่ใช้เพื่อการบรรยาย เทศน์ และการตอบปัญหา จัดได้เป็น ๓ ยุค คือ ยุคพุทธกาล ยุคหลังพุทธกาล ยุคพระสงฆ์ในสังคมไทยซึ่งการสอนแบบอุปมาอุปไมย นั้นพระพุทธเจ้าทรงใช้ตั้งแต่เริ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนา แล้วพระสาวกในสมัยพุทธกาลได้นำเอาการสอนแบบอุปมาอุปไมยของพระองค์ไปใช้เพื่อเผยแผ่หลักคำสอนมาถึงปัจจุบันพัฒนาการการสอนแบบอุปมาอุปไมยที่ปรากฏในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงอุปมาอุปไมยจากเหตุการณ์ที่เกิดหรือสิ่งที่คนในสมัยพุทธกาล รู้เห็นอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วนำมาอธิบายเปรียบเทียบ ต่อมาสมัยหลังพุทธกาลการสอนแบบอุปมาอุปไมยเพื่อมุ่งจะอธิบายเนื้อหาสาระของธรรมะที่เกิดจากการถกเถียงกัน เพื่อเผยแผ่คำสอนและปกป้องรักษาพระธรรมวินัย ต่อมายุคของพระสงฆ์ในสังคมไทย พระสงฆ์ใช้หลักการสอนแบบอุปมาอุปไมยโดยยกตัวอย่างประกอบ มีเอกสารการสอนประกอบ ใช้การเปรียบเทียบหลักธรรมในพระพุทธศาสนากับแนวคิดในศาสนาอื่น รวมทั้งแนวคิดทางปรัชญา สังคมวิทยา วิทยาศาสตร์ และจิตวิทยา มีการอ้างพุทธพจน์จากพระไตรปิฎกมาก่อนแล้วจึงค่อยมายกอุปมาที่เป็นเรื่องของปัจจุบันเหมาะกับผู้ฟัง สอนแบบอุปมาอุปไมยเพื่อการศึกษาหลักไตรสิกขา โดยเริ่มจากในครอบครัวจนถึงนิพพาน และสอนแบบอุปมาอุปไมยในเชิงวาทศิลป์ โดยใช้ภาษาไทยกับภาษาบาลีร่วมกัน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ก. ข้อมูลปฐมภูมิ
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ, ๒๕๐๐ กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๕.
________.พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.
________.อรรถกาแปลภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๓.
ข. ข้อมูลทุติยภูมิ
กองทุนผู้ให้แสงสว่าง. สุภัททานุสรณ์. กรุงเทพมหานคร: กองทุนผู้ให้แสงสว่าง, ๒๕๑๙.
ฝ่ายวิชาการ บริษัท สกายบุ๊กส์ จำกัด. พจนานุกรมไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๑๔. ปทุมธานี: บริษัท สกายบุ๊กส์ จำกัด, ๒๕๕๗.
พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์บริษัทสื่อตะวันจำกัด, ๒๕๔๕.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต). กฐินสองที่สายใจธรรม. กรุงเทพมหานคร: สหธรรมิก, ๒๕๓๗.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). ปรัชญาการศึกษาของไทยภาคพุทธธรรม: แกนนำการศึกษา (ภาคต้นของหนังสือปรัชญาการศึกษาของไทย). กรุงเทพมหานคร: ผลิธัมม์, ๒๕๕๖.
_________. พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ ๒๓. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ผลิธัมม์ในเครือบริษัทสำนักพิมพ์เพ็ทแอนโฮม จำกัด, ๒๕๕๘.
พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๕.
พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท). เหมือนกับใจคล้ายกับจิต. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพมหานคร : คิวพริ้นท์ แมเนจเม้นท์, ๒๕๔๖.
พระสิริมังคลาจารย์.มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๑.กรุงเทพมหานคร: มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๐.
พระสิริมังคลาจารย์.มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒.กรุงเทพมหานคร: มหามกุฎราชวิทยาลัย, ๒๕๔๓.
พระพุทธโฆสเถร. คัมภีร์วิสุทธิมรรค. พิมพ์ครั้งที่ ๑๐. แปลและเรียบเรียงโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร). กรุงเทพมหานคร: ธนาเพรส, ๒๕๕๔.
เสฐียรพงษ์ วรรณปก. พุทธวิธีการสอนจากพระไตรปิฎก. กรุงเทพมหานคร: เพชรรุ่ง, ๒๕๔๐.
๒) วิทยานิพนธ์
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช). ศัพท์วิเคราะห์. กรุงเทพมหานคร.สำนกพิมพ์เลี่ยงเชียง, ๒๕๕๐.
พระมหาวิสิษฐ์ ปญฺญาวฑฺฒโน. “การศึกษาเชิงวิเคราะห์เรื่องการอุปมากถาในมิลินทปัญหา.”วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๕.
พระมหาสมพร อาภากโร. “การศึกษาอุปมาอุปไมยในคำสอนของพระโพธิญาณเถร.”วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๘.
พระเมธีวรญาณ. “การศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ปรมัตถมัญชุสา.” วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตบัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๕.
วศิน อินทสระ. อธิบายมิลินทปัญหา. กรุงเทพมหานคร : มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๒๘.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์พุทธศาสน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว