การศึกษากระบวนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทำร้ายร่างกายของพนักงานสอบสวน ในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนในกระบวนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทำร้ายร่างกาย และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานตามกระบวนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทำร้ายร่างกาย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานสอบสวนสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น. 1) จำนวน 100 ราย โดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับระดับปฏิบัติงาน และแบบสอบถามปลายเปิด มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงบรรยาย การทดสอบด้วยสถิติที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบภายหลังการวิเคราะห์โดยวิธีการเปรียบเทียบพหูคูณแบบ LSD (Least -Significant Different) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการปฏิบัติงานในกระบวนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทำร้ายร่างกายอยู่ในระดับทุกครั้ง 2) จากปัจจัยที่ศึกษาได้แก่ อายุราชการ ระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นพนักงานสอบสวน ตำแหน่ง ยศ สังกัดสถานีตำรวจ และการได้รับการอบรมเสริมศักยภาพด้านการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทำร้ายร่างกายซึ่งจำแนกจากข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า สังกัดสถานีตำรวจมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานทุกด้าน ในขณะที่การได้รับการอบรมเสริมศักยภาพด้านการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีทำร้ายร่างกายมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานเฉพาะด้านการทำสำนวนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนในสังกัด บก.น.1 มีการทำงานในกระบวนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานคดีทำร้ายร่างกายด้วยระดับปฏิบัติงานทุกครั้งสำหรับทุกด้าน อย่างไรก็ตามความแตกต่างของระดับการปฏิบัติงานในแต่ละด้านขึ้นกับความรุนแรงของคดี วัสดุอุปกรณ์ และความรู้ความเข้าใจจากการได้รับการฝึกอบรม
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถิอว่าเป็นข้อคิดเห็นและความรั้บผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนเท่านั้น