การตรวจลักษณะธาตุองค์ประกอบในปลอกกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ โดยวิธี Scanning Electron Microscope/ Energy Dispersive X-ray Spectroscopy เพื่อประยุกต์ใช้ในงานนิติวิทยาศาสตร์

Main Article Content

ธิติ มหาเจริญ

บทคัดย่อ

               การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ลักษณะธาตุองค์ประกอบที่สำคัญในปลอกกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ และศึกษาปริมาณธาตุองค์ประกอบที่พบในปลอกกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ รวมทั้งเปรียบเทียบปริมาณธาตุองค์ประกอบสำคัญที่พบในปลอกกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติที่แตกต่างกัน โดยใช้SEM/EDX กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้ คือ ปลอกกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ที่ยิงมาจากปืนพกกึ่งอัตโนมัติได้แก่ ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Glock รุ่น 17, 19, 26 และยี่ห้อ CZ รุ่น 75 Compact และปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. ยี่ห้อ Glock รุ่น 21 และยี่ห้อ Kimber ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า
               1. ขนาดของกระสุนปืนที่แตกต่างกันมีผลต่อปริมาณของธาตุแอนติโมนี แบเรียม และตะกั่วแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งกระสุนปืนขนาด 11 มม. มีปริมาณของธาตุแอนติโมนีและแบเรียมมากกว่ากระสุนปืน 9 มม. ส่วนกระสุนปืนขนาด 9 มม. มีปริมาณของธาตุตะกั่วมากกว่ากระสุนปืนขนาด 11 มม.
               2. ชนิดของอาวุธปืนที่แตกต่างกันมีผลต่อปริมาณของธาตุแอนติโมนี แบเรียม และตะกั่วแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. ยี่ห้อ Kimber มีปริมาณของธาตุแอนติโมนีและแบเรียมมากที่สุด แต่มีปริมาณของธาตุตะกั่วน้อยที่สุด

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. กำชัย ศรีธรรม. (2554). การศึกษาปริมาณธาตุจากเขม่าปืนที่ติดอยู่บนถุงมือ ภายหลังจากการยิงปืนที่ระยะเวลาต่างกันด้วยเครื่อง SEM. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

2. ธีระศักดิ์ ว่องสกุล. (2556). การศึกษาเปรียบเทียบปริมาณและขนาดอนุภาคของธาตุเขม่าปืนที่เกิดจากการยิงปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ที่มีความยาวลำกล้อง 2 นิ้ว และความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว ที่ระยะยิงแตกต่างกัน. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

3. รัชนารถ กิตติดุษฎี. (2535). การตรวจหาคราบเขม่าปืนที่มือโดยวิธี SEM/EDX. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล.

4. วิวัฒน์ ชินวร. (2547). การวิเคราะห์เขม่าปืนด้วยเทคนิค SEM/EDX. วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

5. หัสวิภา หมายมั่น. (2559). Scanning Electron Microscope : SEM. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2560. เข้าถึงได้จาก https://web2.mfu.ac.th/center/stic/microanalysisinstrument-menu/item/96-scaning-electron-microscrope.html.

6. อัมพร จารุจินดา. (2542). การตรวจพิสูจน์อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน : ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับผู้เข้าอบรม [อัดสำเนา]. กรุงเทพฯ: กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานวิทยาการตำรวจ

7. อัษฎายุทธ ผลภาค. (2554). การตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบธาตุจากเขม่าปืนชนิดปราศจากตะกั่วกับแหล่งอื่น. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

8. Dalby O, Butler D. and Birkett, J. W. (2010). Analysis of gunshot residue and associated materialsa review. Forensic Science. 55(4), 924-943.

9. Lubor Fojta sek, Jitka Vacinova, Pavel Kolar and Marek Kotrly. (2003). Distribution of GSR particles in the surroundings of shooting pistol. Forensic Science International. 132, 99-105.

10. Nesbitt, R. S., Wessel, J. E., and Jones, R. F. (1976). Detection of Gunshot Residue by Use of the Scanning Electron Microscope. Forensic Sciences. 21(3), 595-610.

11. Schwoeble, A. J. and Exline, D. L. (2000). Current Methods in Forensic Gunshot Residue Analysis. Florida: CRC Press.

12. Wallace, J. S. and McQuillan, J. (1984). Discharge Residues from Cartridge-Operated
Industrial Tools. Foensic Science Society. 24(3): 495-508.

13. Zeichner, A., Levin, N., and Springer, E. (1991). Gunshot Residue Particles Formed by
Using Different Type of in the Same Firearm. Forensic Sciences, 36 (6): 1020-1026.

14. Zuzanna Brozek-Mucha. (2009). Distribution and properties of gunshot residue originating from a Luger 9 mm. ammunition in the vicinity of the shooting gun. Forensic Science International. 183: 33-44.

15. Zuzanna Brozek-Mucha and Agnieszka Jankowicz. (2001). Evaluation of the possibility of differentiation between various types of ammunition by means of GSR examination with SEM-EDX method. Foensic Science International. 123: 39-47.