การพัฒนาวิธีและตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีการตรวจหาปริมาณยาในเลือดโดยเทคนิค Liquid Chromatography - Tandem Mass Spectrometry (LC-MS/MS) ตามแนวทางมาตรฐานสากล

Main Article Content

ธนสิริ ยกเชื้อ

บทคัดย่อ

                    การตรวจวิเคราะห์หาปริมาณของยาในเลือดเป็นเป้าหมายสำคัญในการตรวจวิเคราะห์ทางด้านนิติพิษวิทยาที่ใช้สนับสนุนการหาสาเหตุของการเสียชีวิตร่วมกับการตรวจทางพยาธิวิทยา เนื่องจากปริมาณยาและสารพิษที่ตรวจพบในเลือดนั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการแปลผลการตรวจวิเคราะห์ทางนิติพิษวิทยา โดยการระบุสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการได้รับยาหรือสารพิษนั้นจำเป็นต้องทราบปริมาณของยาและสารพิษในเลือด ดังนั้น การตรวจหาปริมาณยาในเลือดจึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับงานทางด้านนิติพิษวิทยา ซึ่งเทคนิคที่นิยมใช้ในการปริมาณยาในเลือดนั้น คือเทคนิคลิควิดโครมาโทกราฟี-แทนเดมแมสสเปกโทรเมตรี เนื่องจากเป็นเทคนิคที่มีความจำเพาะและความไวในการวัดสูง อย่างไรก็ตาม สมาคมนิติพิษวิทยาระดับสากล เช่น The International Association of Forensic Toxicologists (TIAFT) ได้มีข้อแนะนำไว้ใน Laboratory Guidelines ว่าทุกวิธีการทดสอบที่นำมาใช้ในห้องปฏิบัติการนั้นต้องผ่านการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธี (validation) บทความนี้ได้เสนอแนวทางในการพัฒนาและการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตามแนวทางมาตรฐานสากล ในการตรวจหาปริมาณยาและเมแทบอไลต์ในเลือดโดยเทคนิคลิควิดโครมาโทกราฟีแทนเดมแมสสเปกโทรเมตรี (ทริปเปิลควอดรูโพล) ซึ่งสามารถตรวจหาปริมาณยา สารเสพติดและเมแทบอไลต์ในเลือดได้ 16 ชนิด

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. Drummer, O. (2010). Forensic toxicology. In Luch, A. (Ed.). Molecular, Clinical and Environmental Toxicology.100: 579-603.

2. Peters, F. T. (2006). Method Validation using LC/MS. In Polettini, A. (Ed.), Application of LC-MS in Toxicology.71-96.

3. SOFT. (2006). SOFT/AAFS Forensic Toxicology Laboratory Guidelines. Retrieved March 13, 2018. from https://www.soft-tox.org/files/Guidelines_2006_Final.pdf.

4. SWGTOX. (2013). Scientific Working Group for Forensic Toxicology (SWGTOX): Standard Practices for Method Validation in Forensic Toxicology. Journal of Analytical Toxicology. 37(7): 452–474.

5. TIAFT (2014). Laboratory Guidelines. Retrieved March 12, 2018. from https://www.tiaft.org/data/uploads/documents/tiaft-sta-laboratory-guidelines.pdf.