การศึกษาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความตระหนักรู้ทางสังคม ของนักเรียนชั้นปรถมศึกษาปีที่ 6
คำสำคัญ:
คำสำคัญ การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ, ความตระหนักรู้ทางสังคม, การบูรณาการเนื้อหาและภาษาบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การศึกษาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความตระหนักรู้ทางสังคม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวการบูรณาการเนื้อหาและภาษา และ 2) ศึกษาระดับความตระหนักรู้ทางสังคม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวการบูรณาการเนื้อหาและภาษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยการจับฉลาก ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง แบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวการบูรณาการเนื้อหาและภาษา จำนวน 5 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน รวม 40 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ฉบับก่อนและหลังเรียน จำนวน 2 ฉบับ และ 4) แบบสอบถามความตระหนักรู้ทางสังคม จำนวน 1 ฉบับ การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนและหลังได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามการบูรณาการเนื้อหา และศึกษาระดับความตระหนักรู้ทางสังคมของนักเรียนหลังได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามการบูรณาการเนื้อหาและภาษา โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
- ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- ระดับความตระหนักรู้ทางสังคมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวการบูรณาการเนื้อหาและภาษา อยู่ในระดับมากที่สุด
Downloads
References
กมลวรรณ โคตรทอง. (2557). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากนิทานอาเซียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ storyline สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านเป้า (สำราญไชยวิทยา) จังหวัดชัยภูมิ. (ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปกร).
กระทรวงศึกษาธิการ. (2547). สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิซซิ่งจำกัด (มหาชน).
กาญจนา เงารังษี. (2559). “การศึกษากับการพัฒนาที่ยั่งยืน,” วารสารสมาคมนักวิจัย. 21(2), 13-18.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). “การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน,” วารสารศิลปากร ศึกษาศาสตร์วิจัย. 5(1), 7 – 20.
ฐิฒิรัฐศาสตร์ พรหมวิชัย. (2555). ความตระหนัก การมีส่วนร่วม และความต้องการใช้เทคโนโลยีในการจัดการขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลตำบลหนองลาด อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร. (ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร).
ธีรศักดิ์ อุ่นอารมณ์เลิศ. (2554). วิธีวิทยาการวิจัยทางสังคมศาสตร์. นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
-71, 80-81.
นพพร สโรบล. (2557). ภาษาอังกฤษกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน. สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2560, จาก http://www.polsci.tu.ac.th/fileupload/39/56/.pdf.
บริติซเคานซิล. (2559). ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียน. สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2559, จาก https://www.britishcouncil.or.th/english/children.
บัลลังก์ โลหิตเสถียร. (2558). ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 219/2558 กำหนดสอบ O-NET ประจำปี 2558. สืบค้นเมื่อ
กุมภาพันธ์ 2561, จาก www.moe.go.th/websm/2015/jul/219.html.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ : บริษัท สุวิริยาสาส์น จำกัด.
บุญชม ศรีสะอาด. (2539). การวิจัยเบื้องต้น. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม. 66-68.
ผัสสพรรณ ถนอมพงษ์ชาติ, สุมาลี ชิโนกุล และสำลี ทองธิว. (2557). “หกขั้นตอนการสอนการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามแนวคิดการเห็นความสำคัญของการเรียนรู้และการเรียนรู้แบบลึกสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา,” Suranaree J. Soc. Sci. 7(2), 59-78.
ภัทรา นิคมานนท์. (2542). การประเมินผลและการสร้างแบบทดสอบ. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฎจันทรเกษม. 171-180.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. 73.
สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. (2557). นโยบายสาธารณะ : แนวความคิด การวิเคราะห์และกระบวนการ. พิมพ์ครั้งที่ 27. กรุงเทพฯ : เสมาธรรม.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2562). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2563, จาก http://www.niets.or.th.
สิริอร วิชชาวุธ. (2554). จิตวิทยาการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุดาพร พงษ์พิษณุ, สพลณภัทร์ ศรีแสนยงค์, สุนทร บำเรอราช และวิมลรัตน์ จตุรานนท์. (2558). “การสร้างชุดการเรียนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยการอ่าน และเขียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6,” วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 26(2). 10-19.
Bentley, Kay. (2010). The TKT Teaching Knowledge..test Cause. University of Cambridge : Cambridge ESOL,.
Bruton, A. (2011). “Are the differences between CLIL and non-CLIL groups in Andalusia due to CLIL? A reply to Lorenzo, Casal and Moore,” Applied Linguistics. 32, 236 -241.
Costa, F., & D’Angelo, L. (2011). “CLIL : A suit for all seasons?,” Latin American Journal of Content
& Language Integrated Learning. 4(1), 1 – 13.
Coyle, D., Hood, P., & Marsh, D. (2010). CLIL content and language integrated learning. Cambridge : Cambridge University Press.
Coyle, D., Phillip, H. & David, M. (2011). CLIL (Content and Language Integrated Learning). Cambridge : Cambridge University Press.
Crystal, D. (2003). The Cambridge Encyclopedia of the English Language. (2nd ed.). English Cambridge University Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
ในกรณีที่กองบรรณาธิการ หรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับเชิญให้เป็นผู้ตรวจบทความวิจัย หรือ บทความทางวิชาการมีความเห็นว่าควรแก้ไขความบกพร่อง ทางกองบรรณาธิการจะส่งต้นฉบับให้ ผู้เขียนพิจารณาจัดการแก้ไขให้เหมาะสมก่อนที่จะลงพิมพ์ ทั้งนี้ กองบรรณาธิการจะยึดถือความคิด เห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นเกณฑ์