การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมนาฏศิลป์ ชุด ระบำพรหมาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมนาฏศิลป์ ชุด ระบำพรหมาสตร์ 2) ศึกษาผลการใช้หลักสูตรและการประเมินผลหลักสูตรฝึกอบรม และ 3) ศึกษาความพึงพอใจในการเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรม กลุ่มเป้าหมายสัมภาษณ์เพื่อศึกษาความต้องการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมแบบเจาะจง จำนวน 55 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 1 คน ครูวิชานาฏศิลป์โรงเรียนสตรียะลา จังหวัดยะลา จำนวน 3 คน และนักเรียนชุมนมนาฏศิลป์ไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสตรียะลา จังหวัดยะลา จำนวน 50 คน กลุ่มตัวอย่างการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชุมชุมนาฏศิลป์ โรงเรียนสตรียะลา จังหวัดยะลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 20 คน โดยใช้วิธีการคัดเลือกแบบอาสาสมัคร (Voluntary Selection) ที่มีความสนใจในหลักสูตรฝึกอบรมนาฏศิลป์ ชุดระบำพรหมาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความต้องการในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม หลักสูตรฝึกอบรม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะปฏิบัติการขับร้องเพลงการแสดง แบบประเมินทักษะปฏิบัติท่ารำการแสดง และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) หลักสูตรฝึกอบรมนาฏศิลป์ ชุด ระบำพรหมาสตร์ ใช้แนวคิดการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรจัดฝึกอบรม มี 10 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ จุดมุ่งหมายการอบรม โครงสร้าง ขอบข่ายเนื้อหา เวลาการอบรม การดำเนินการจัดอบรม กิจกรรมการอบรม การวัดและประเมินผล โครงสร้างแผนการจัดฝึกอบรม และแผนกิจกรรมฝึกอบรม จำนวน 6 แผน
รวม 21 ชั่วโมง 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลักสูตรฝึกอบรม ด้านความรู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ด้านทักษะปฏิบัติการขับร้องเพลงการแสดง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
9 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.90 อยู่ในระดับดีมาก ด้านทักษะปฏิบัติ
ท่ารำการแสดง ครั้งที่ 2 สูงกว่าครั้งที่ 1 โดยครั้งที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.78 อยู่ในระดับปานกลาง ครั้งที่ 2 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.06 อยู่ในระดับดีมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิพิธพัฒนศิลป์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้แต่งเท่านั้น โดยกองบรรณาธิการวารสารไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในบทความ
เอกสารอ้างอิง
จุฑารัตน์ ดวงเทียน. (2558). การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน ร่วมกับ การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงค่านิยม 12 ประการสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ชีวานันท์ คะนองมาก. (2562). การพัฒนาหลักสูตร “ฟ้อนออนซอนงามงอนไอ่คำ" กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต] มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ณัฐพล ภมรคณเสวิต และนิตยา วงศ์ภินันท์วัฒนา. (2561). รูปแบบการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับทักษะในงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ. วารสารระบบสารสนเทศด้านธุรกิจ. 4(3). 66-85. 10.14456/jisb.2018.16
ดนัย จันทร์ศรี. (2564). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชานาฏศิลป์ไทย โขนพระ รำหน้าพาทย์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างกลุ่มที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทักษะ ปฏิบัติของแฮร์โรว์กับกลุ่มที่เรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบปกติ. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ดวงเดือน จันทร์เจริญ. (2560). การออกแบบโครงการการเรียนรู้และการฝึกอบรม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธนพนธ์ ครองสระน้อย. (2563). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมวิชาชีพ เรื่อง การออกแบบยรรจุภัณฑ์ สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลโพรงอากาศ. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
นิธิพล ธิมะสาร. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์สัน เรื่อง ฟ้อนมโนห์ราเสิ่นย้าย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต] มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ประเมษฐ์ บุณยะชัย. (2547). โขนโรงใน (โขนทางละคร). กรมศิลปากร.
ปวิชญา เนียมคำ. (2558). การพัฒนาหลักสูตรมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมหนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
พนิดา อ่อนดี และพิภัช สอยใย. (2566). การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะการขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม. วารสารสังคมศาสตร์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 7(4), 208-218. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/soc-rmu/article/download/263611/177919/1073725
พระสุเมธ เอี่ยมบวร. (2566). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ตามหลักโยนิโสมนสิการ เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันดิจิทัลสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
พงศธร กัณหา. (2567). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม ชุด รำโนของดีโคราช [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
พิมพ์ณัฐชยา เทียนเจษฎา. (2562). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครูเพื่อพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณระดับปฐมวัย. บุรีรัมย์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3.
พิมสิริ วงศ์ชูชัยสถิต. (2567). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการแสดง ชุด รำลงสรงสุหร่าย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
พิมสิริ วงศ์ชูชัยสถิต, มาโนช บุญทองเล็ก, กัญชพร ตันทอง และประวิทย์ ฤทธิบูลย์. (2567). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการแสดง ชุด รำลงสรงสุหน่ายอุณรุท. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม. 14(3), 271-286.
พรเทพ บุญจันทร์เพ็ชร์. (2558). ประวัตินาฏศิลป์ไทย: ภาคกลาง. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์
ภรณี ศิริวิศาลสุวรรณ. (2562). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างทักษะชีวิตในยุคดิจิทัลสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต].มหาวิทยาลัยศิลปากร.
มาโนช บุญทองเล็ก. (2564). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยสู่ความเป็นพลเมืองโลก.
[วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
มารุต พัฒผล. (2567). รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรร่วมสมัย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียน
เรณู โกศินานนท์. (2545). สืบสานนาฏศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
วราภรณ์ อาจคำไพ. (2565). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ร่วมกันผ่านระบบสังคมออนไลน์สำหรับธุรกิจ เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านคลังสินค้าและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วารีรัตน์ แก้วอุไร. (2564). การพัฒนาหลักสูตร: จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วรรณสิริ ธุระแพง, เอกนฤน บางท่าไม้, ศิวนิต อรรถวุฒิกุล และสิทธิชัย ลายเสมา. (2566). การพัฒนากิจกรรมการฝึกอบรมโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ร่วมกันผ่านระบบสังคมออนไลน์สำหรับธุรกิจเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านคลังสินค้าและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร. วารสารสิรินธรปริทรรศน์. 24(2). 1-14. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jsrc/article/view/253486/179844
วิทยา ศรีผ่อง. (2563). ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทยสำหรับพัฒนาศักยภาพของผู้ขับร้อง. กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
สุมนมาลย์ นิ่มเนติพันธ์. (2545). การละครไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
สมนึก ภัททิยธนี. (2555). การวัดผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: ประสานการพิมพ์.
หอสมุดแห่งชาติ. (2533). บรรณานุกรมงานนิพนธ์ของพระสารประเสริฐ (ตรีนาคะประทีป). กรุงเทพฯ: หอสมุดแห่งชาติ. (เอกสารวิชาการหอสมุดแห่งชาติ อันดับที่ 3/2533).
Boontonglek, M., Rittibul, P., Orachun, R., & Boonsong, P. (2023). Dramatic Arts Innovation and
Learning Management in the 21st Century. Asian Journal of Arts and Culture. vol.23, no.2. pp. 1-11. https://doi.org/10.48048/ajac.2023.260039
Dewey, J. (1916). Democracy and Education: An Introduction to the Philosophy of Education.
New York: Macmillan.
Dewey, J. (1938). Experience and Education. New York: Macmillan.
Kilpatrick, W. H. (1918). The Project Method. Teachers College Record.
Rittibul, P., Boontonglek, M., Orachun, R., Ngerndang, A., & Boonsong, P. (2024). The
Development of Learning Media in Virtual Classroom On Topics of Thai Performing Arts. Edelweiss Applied Science and Technology. vol.8, no.6, pp. 7655-7662. https://doi.org/10.55214/25768484.v8i6.3659
Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt Brace
Jovanovich.
Tyler, R. W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The
university of Chicago press.