การพัฒนาทักษะการบรรเลงอังกะลุงเบื้องต้น โดยการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการบรรเลงอังกะลุงเบื้องต้น โดยการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think Pair Share)
ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดยางช้าย มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการบรรเลงอังกะลุงเบื้องต้นของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดยางช้าย โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think Pair Share) ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิด (Think) ให้นักเรียนคิดหาคำตอบด้วยตนเองคนเดียว จับคู่ (Pair) ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแบ่งปัน (Share) ให้นักเรียนนำเสนอแนวคิดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนกับชั้นเรียนทั้งหมดเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 คน ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด จำนวน 6 แผน แบบทดสอบก่อน–หลังเรียน
และแบบบันทึกผลการเรียนรู้ การวิจัยใช้รูปแบบการทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังเรียน
(One-Group Pretest–Posttest Design) โดยดำเนินการทั้งหมด 8 สัปดาห์
ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 8 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 40 ซึ่งอยู่ในระดับ “ปรับปรุง” ส่วนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 18.42 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 92.08 อยู่ในระดับ “ดีมาก”
แสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิดสามารถพัฒนาทักษะการบรรเลงอังกะลุงของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกองค์ประกอบของทักษะ ทั้งความถูกต้องของระดับเสียง ทำนอง ความสม่ำเสมอของจังหวะ การอ่านโน้ต และการบรรเลงรวมวง ด้านพฤติกรรมการเรียนรู้พบว่า ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนสูงขึ้น กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในการบรรเลงอังกะลุงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าใจการเรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน รู้จักการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่ม ส่งผลให้บรรยากาศการเรียนรู้เป็นไปในเชิงบวก ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในตนเองและกลุ่ม รวมทั้งมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนดนตรีไทยมากยิ่งขึ้น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิพิธพัฒนศิลป์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้แต่งเท่านั้น โดยกองบรรณาธิการวารสารไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในบทความ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560). สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
ธันยพร อุดคำมี และ กฤธยากาญจน์ โตพิทักษ์. (2566). การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) ร่วมกับแนวคิดการใช้คำถามสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารการศึกษาประถมศึกษา, 18(1), 45-60.
พงศ์เทพ วัฒนาสุข. (2562). การศึกษากระบวนการฝึกทักษะการบรรเลงอังกะลุงของนักเรียนระดับประถมศึกษา. วารสารวิชาการดนตรีไทย, 15(1), 30-50.
Johnson, D. W., & Johnson, R. T. (1999). Cooperative learning in the classroom: Research and practice. Interaction Book Company.
Lyman, F. (1981). The responsive classroom discussion: The inclusion of all students. University of Maryland.