ประสิทธิภาพการออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายของสำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาธวัชบุรี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อระบุปัญหาและอุปสรรคการออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายของสำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาธวัชบุรี และ 2) เพื่อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพในการออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย ของสำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาธวัชบุรี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ดำเนินการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 28 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาธวัชบุรี เจ้าหน้าที่สำนักปฏิรูปที่ดิน ร้อยเอ็ด และผู้ยื่นขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการตีความในรูปของการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา คือ พิจารณาความเหมือนกัน ความแตกต่างกัน และความสัมพันธ์กันมาหาข้อสรุปแล้วบรรยายวิเคราะห์เป็นความเรียง ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาและอุปสรรคการออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายของสำนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาธวัชบุรี เกิดจาก (1) ความมีประสิทธิภาพในการดำเนินการ ได้แก่ ความสามารถของบุคลากร การปฏิบัติตามนโยบาย และการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน (2) ความรับผิดชอบ ได้แก่ ด้านความซื่อสัตย์ และด้านความโปร่งใสตรวจสอบได้ (3) ความครอบคลุม ประกอบด้วย ด้านการเข้าถึงบริการ ด้านการไม่เลือกปฏิบัติ และ (4) ด้านการกระจายอำนาจ ส่วนแนวทางในแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ พบว่า ควรเพิ่มอัตรากำลังของบุคลากรในการปฏิบัติงาน ส่งเสริมให้บุคลากรมีทักษะ ความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน มีทักษะการสื่อสาร ปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตของกฎหมายโดยการมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ลดช่องว่างในการแสวงหาผลประโยชน์ ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบ ให้บริการด้วยความเสมอภาคเป็นธรรมและปราศจากอคติ ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ และลดขั้นตอนการปฏิบัติงานบางอย่างที่ไม่จำเป็นลง
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความและบทความในวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ เป็นแนวคิดของผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของคณะผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
ข้อความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการีพิมพ์ในวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ หากบุคคลใดหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการก่อนเท่านั้น
References
จักริน จันทร์มณฑล และคณะ. (2561). สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหางานค้างของช่างรังวัดในสำนักงานที่ดิน. รายงานการวิจัยหลักสูตรนักบริหารงานที่ดินระดับสูง โรงเรียนนักบริหารงานที่ดินระดับสูง. กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย.
จิรารัตน์ จิตสว่าง. (2563). ปัญหาการออกหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะราย ตามมาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน : ศึกษากรณีได้เนื้อที่ดินเกินจากหลักฐานเดิม. วารสารปัญญาปณิธาน, 5 (1), 228-241.
ชล บุนนาค. (2562). Effective governance: แนวคิดเกี่ยวกับหลักการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. สืบค้น 22 มกราคม 2566, จาก https://www.sdgmove.com/2019/09/3/effective-governance
ธานินทร์ สุทธิกุญชร. (2543). ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานของฝ่ายการพนักงาน. บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน). วิทยานิพนธ์ ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
นที นิลเกตุ. (2564). ปัญหาและอุปสรรคการออกโฉนดที่ดินศึกษากรณีการออกโฉนดที่ดินในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย. วารสารปัญญาปณิธาน, 6(2), 127-142.
ปฐมพงศ์ ทองรวย. (2562). ปัญหาและอุปสรรคในการออกโฉนดที่ดินของสำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาลี้. การค้นคว้าอิสระ ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พัทธ์ปฏิพล พัศดารักษ์. (2562). ประสิทธิผลการนานโยบายการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปปฏิบัติ. ดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ, มหาวิทยาลัยบูรพา.
วราภรณ์ สวนจันทร์. (พฤศจิกายน-ธันวาคม 2563). แนวทางการพัฒนาประสิทธิผลการนำนโยบายการออกโฉนดที่ดินโดยวิธีการเดินสำรวจไปปฏิบัติ. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 6(6), 47-62.
สมใจ ลักษณะ. (2542). การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน. กรุงเทพฯ: ศูนย์หนังสือสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา.
Harrington Emerson. (1931). The Twelve Principles of Efficiency. NY.: The Engineering Magazine.
World Bank. (2019). Governance and Development. Washington. DC.: World Bank Publication.