รูปแบบการสร้างสรรค์นาฏศิลป์จากมายาคติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานนาฏศิลป์จากแนวคิดมายาคติ ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยสร้างสรรค์ โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย การศึกษาและสำรวจข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ การสัมภาษณ์ สื่อสารสนเทศ การลงพื้นที่ศึกษาและสำรวจข้อมูลภาคสนาม และประสบการณ์ของผู้วิจัย โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อหารูปแบบในการสร้างสรรค์นาฏศิลป์จากมายาคติ
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการสร้างสรรค์ครั้งนี้สามารถจำแนกตามองค์ประกอบของนาฏศิลป์ได้ 8 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การออกแบบการแสดง โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง 2) การคัดเลือกนักแสดงจากลักษณะทางกายภาพและความสามารถในการแสดง ตามรูปแบบของนาฏศิลป์สมัยใหม่ บัลเลต์ 3) การออกแบบลีลานาฏศิลป์โดยใช้จินตนาการในการเลียนแบบท่าทางการเคลื่อนไหวของแมงกะพรุน และภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทย ผสมผสานการเคลื่อนไหวแบบร่วมสมัย 4) การออกแบบอุปกรณ์ประกอบการแสดงโดยใช้ผ้ามาประกอบกับโครงพลาสติกที่ใช้สื่อถึงรูปสัญญะของมายาคติเป็นแมงกะพรุนขนาดใหญ่ 5) การออกแบบเสียงและดนตรีประกอบการแสดงใช้เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีไทยกับดนตรีสากลโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาผสม 6) การออกแบบเครื่องแต่งกายตามรูปแบบลักษะของแมงกะพรุน ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการโชว์สรีระของนักแสดงที่เป็นผู้หญิงให้เห็นถึงมายาคติความงาม 7) การออกแบบพื้นที่แสดงให้ความสัมพันธ์ของการออกแบบลีลาท่ารำ การแปรแถว การใช้แสงสีเลือกใช้หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ 8) การออกแบบแสงสนับสนุนบรรยากาศของการแสดงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และมีความสัมพันธ์กับความรู้สึก อารมณ์ และจินตนาการของผู้ชม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ทรรศนะและข้อคิดเห็นในบทความวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มิใช่เป็นทรรศนะและความคิดของผู้จัดทำจึงมิใช่ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอก แต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มา
เอกสารอ้างอิง
Charassri, N. (2007). Narai Avatara, Performing the Thai Ramayana in The modern World. Bangkok: Amarin.
Conway, D. V. P, White, R. G., Hugues, D. C. J., Gallienne, C. P. and Robins, D. B. (2003). Guide to the Coastal and Surface Zooplankton of the South – Western Indian Ocean. DEFA Darwin Initiative Zooplankton Programme Version 1 June 2003. Marine Biological Association of the United Kingdom Occasional Publication No 15.
Daly. M., Brugler. M. R., Cartwright, P., Collins, A. G., Dawson. M. N., Fautin.D. G., France, S. C., McFadden. C. s., Opresko, D. M., Rodriguez, E., Romano, S. L. and Stake, J. L. (2007). The Phylum Cnidaria: a review of phylogenetic patterns and diversity 300 years after Linnaeus. Zootaxa.
Jacques, D. (1976). Of Grammatology. Trans. Gayatri Chakravorty Spivak. Baltimore: Johns Hopkins University Press.
Nopudomphan, K. (2014). Kānsưksā wikhro̜ nǣothāng kānʻō̜kbǣp khrư̄ang tǣng ō̜kāi nātsin niphon (nātsinthai) khana sinlapakam sāt Mahāwitthayālai Sīnakharinwirōt rawāng pīkānsưksā 2546-2550 [The Analytical Study on Designs of Costume for Dance Theses (Thai Dance) by Graduates of Srinakharinwirot University’s Faculty of Fine Arts, between 2003- 2007]. Institute of Culture and Arts Journal. 16(1), 79-92.
Ponsaratoon, P. (2006). māyā khati khwām ngām khō̜ng sattrī Thai Phō̜.Sō̜. 2481-2516 [Thai Women’s Beauty Myth (1938-1973)]. Master’s thesis. Chulalongkorn University.
Saitongkum, J. (2018). krabūankān sāngsan ngān nāttasin chut sakkāra thēwa rāt [The Creative Process of Thai Dramatic Art- Sakkaratewarat Dance]. Research and Development Journal Suan Sunandha Rajabhat University. 10(1), 103-117.
Wisedsing, S. (2014). ʻattharot nai nāttasin phān nāttakam nǣo mai rư̄ang Nārāi ʻawatān [Flavour of Thai Dance through the Modern Performance Narai Avatara]. Institute of Culture and Arts Journal. 15(2), 135-140.