คุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินภายหลังผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมตามทัศนะและประสบการณ์ของผู้ปกครอง

Main Article Content

มลิวัลย์ ธรรมแสง
ชนิดา มิตรานันท์

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินภายหลังผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมตามทัศนะและประสบการณ์ของผู้ปกครอง และเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินภายหลังผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมตามทัศนะ และประสบการณ์ของผู้ปกครอง โดยจำแนกตามอายุขณะที่เข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บิดา หรือมารดา หรือผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินที่ได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมของชมรมผู้ใช้ประสาทหูเทียมแห่งประเทศไทย จำนวน 72 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินภายหลังการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์เชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา


            ผลการวิจัยพบว่า


  1. คุณภาพชีวิตของเด็กบกพร่องทางการได้ยินที่ได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมตามทัศนะและประสบการณ์ของผู้ปกครองโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับสูง

       2. อายุของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินขณะที่เข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมที่มีอายุต่างกันจะมีคุณภาพชีวิตภายหลังผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมตามทัศนะและประสบการณ์ของผู้ปกครองแตกต่างกันเล็กน้อย โดยอายุของเด็กขณะที่เข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมที่มีอายุระหว่าง 1 ปี ถึง 5 ปี 6 เดือน มีคุณภาพชีวิตภายหลังผ่าตัดประสาทหูเทียมตามทัศนะและประสบการณ์ของผู้ปกครองโดยภาพรวมสูงกว่าเด็กที่ได้รับผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมในช่วงอายุระหว่าง 5 ปี 7 เดือน ถึง 10 ปี 6 เดือน และเด็กที่ได้รับผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมในช่วงอายุ 10 ปี 7 เดือน   ขึ้นไป ตามลำดับ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.(2559). รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านคนพิการในประเทศไทย. สืบค้นจาก https://dep.go.th/sites/default/files/files/news/REPORT_PWDS_Mar2559.pdf.

เกยูร วงศ์ก้อม. (2547). การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.

เกียรติยศ โคมิน. (2551). ประสาทหูเทียมประตูเปิดสู่ชีวิตที่มีเสียง. สืบค้นจาก https://www.hopetohear.net/special_story1_ci_doctor.html.

คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ. (2553). แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เทพเพ็ญวานิสย์.

นิศารัตน์ ศิลปะเดช. (2540). ประชากรกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: พิศิษฐ์การพิมพ์.

ปัณณ์พัฒน์ จันทร์สว่าง. (2556). ลูกมีความบกพร่องทางการได้ยิน (Children with Hearing Impairment). สืบค้นจาก https://taamkru.com/th.

ปริญญา หลวงพิทักษ์ชุมพล. (2553). การประเมินความสามารถทางการฟังและการพูดของเด็กหูหนวกที่ใช้เครื่องประสาทหูเทียม อายุ 1-5 ปี. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกการพิมพ์.

ปฤษฐพร กิ่งแก้ว และคณะ. (2552). โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพร่วมกับแผนงาน สร้างเสริมสุขภาพคนพิการในสังคมไทย. การประเมินเทคโนโลยีการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม: มุมมองด้านเศรษฐกิจและสังคม. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เดอะ กราฟิโกซิสเต็มส์ จำกัด.

เยาวพา เดชะคุปต์. (2528). กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.

ลลิตา เกษมสุวรรณ. (2559). ประสาทหูเทียม (Cochlear implant). สืบค้นจาก https://www.phyathai.com/medicalcenterdetail_article/16/250/PYT1/th.

วันทนีย์ โลหะประกิตกุล. (2559). ฝ่าความเงียบด้วยประสาทหูเทียม (ตอนที่ 4 และ ตอนจบ). สืบค้นจาก https://haamor.com/th.
ศูนย์ประสานงานการพัฒนาชนบทแห่งชาติ. (2532). คู่มือระบบบริหารการพัฒนาชนบท. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ยูไนเต็ดโปรดักชั่น.

Archbold, S. M., Lutman, M. E., Gregory, S., O’Neill, C., and Nikolopoulos, T. P. (2002). Parents and their deaf child: their perceptions three years after cochlear implantation. Deafness and Education International. 4, 12- 40.

Archbold, S., Sach, T., O’Neill, C., Lutman, M., and Gregory, S. (2008). Outcomes from cochlear implantation for child and family: parental perspectives. Deafness and Education International. 10, 120-142.

Betty Loy, Andrea D. Warner-Czyz, Liyue Tong, Emily A. Tobey and Peter S. Roland. (2010). The children speak: An examination of the quality of life of pediatric cochlear implant users. Otolaryngology–Head and Neck Surgery. 142,247-253.

Huttunen, K., Rimmanen, S., Vikman, S., Virokannas, N., Sorri, M., Archbold, S., and Lutman, M. E. (2009). Parents’ views on the quality of life of their children 2-3 years after cochlear implantation. International Journal of Pediatric Otorhinolaryngology. 73, 1786-1794.

Schorr, E. A., Roth, F. P., and Fox, N. A. (2009). Quality of life for children with cochlear implants: perceived benefits and problems and the perception of single words and emotional sounds. Journal of Speech, Language, and Hearing Research. 52, 141–152.

Roshini, K., Warner-Czyz, A.D., Silver, C. H., Loy, B., and Tobey, E. A. (2015). American parent perspectives on quality of life in pediatric cochlear implant recipients. Ear and Hearing. 36, 269-278.

Zaidman-Zait, A., Curle, D., Jamieson, J. R., Chia, R., and Kozak, F. K. (2015). Cochlear implantation among deaf children with additional disabilities: parental perceptions of benefits, challenges, and service provision. Journal of Deaf Studies and Deaf Education. 20, 41-50.