สภาพและการประเมินความต้องการจำเป็นด้านสมรรถนะของบรรณารักษ์วิเคราะห์และ ทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ สังกัดห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
DOI:
https://doi.org/10.14456/jlis.2020.6คำสำคัญ:
สมรรถนะวิชาชีพ บรรณารักษ์วิเคราะห์และทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ การประเมินความต้องการจำเป็น ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและเปรียบเทียบสภาพสมรรถนะของบรรณารักษ์วิเคราะห์และทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ สังกัดห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านคุณลักษณะ โดยจำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงาน รวมทั้งประเมินความต้องการจำเป็นสมรรถนะของบรรณารักษ์วิเคราะห์ฯ โดยใช้ วิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บรรณารักษ์วิเคราะห์ฯ สังกัดห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ 30 แห่ง จำนวน 158 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t-test และ One-way ANOVA ประเมินความต้องการจำเป็นด้วยวิธี Priority Need Index แบบปรับปรุง ผลการวิจัยพบว่า สภาพสมรรถนะของบรรณารักษ์วิเคราะห์ฯ โดยรวม อยู่ในระดับมาก ( = 3.74) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า บรรณารักษ์มีสมรรถนะด้านคุณลักษณะ ( = 3.97) และด้านทักษะ ( = 3.62) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านความรู้อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.49) เมื่อเปรียบเทียบตามตัวแปร พบว่า บรรณารักษ์ที่มีวุฒิการศึกษาและประสบการณ์การทำงานแตกต่างกันมีสมรรถนะโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนการประเมินความต้องการจำเป็นด้านสมรรถนะของบรรณารักษ์ พบว่า ด้านที่มีความจำเป็นอันดับแรก คือ ด้านความรู้ (PNIModified=0.28) อันดับสอง คือ ด้านทักษะ (PNIModified=0.24) และอันดับสาม คือ ด้านคุณลักษณะ (PNIModified=0.16)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เกี่ยวกับลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์ของบทความที่ปรากฏในวารสารบรรณศาสตร์ มศว เป็นของผู้นิพนธ์และคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทั้งนี้ บทความทุกเรื่องผ่านการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิ ข้อความและข้อมูลของบทความในวารสารฯ เป็นแนวคิดของผู้นิพนธ์ มิใช่เป็นความคิดเห็นของกองบรรณาธิการและมิใช่ความรับผิดชอบของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการ แต่ต้องอ้างอิงแสดงแหล่งที่มาและที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายลิขสิทธิ์