แนวทางในการตรากฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุในประเทศไทย กรณีศึกษา: กฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุของประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุและจะเข้าสู่สถานะ "สังคมผู้สูงอายุระดับสูง" โดยมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากมีลักษณะคล้ายกับญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ซึ่งทั้งสองประเทศมีกฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุ แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่คุ้มครองการจ้างงานผู้สูงอายุ วัตถุประสงค์ของการวิจัย: 1) เพื่อศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีการจ้างงานผู้สูงอายุ 2) เพื่อศึกษากฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุตามกฎหมายของต่างประเทศ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการตรากฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุในประเทศไทย ระเบียบวิธีวิจัย: เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับแรงงานผู้สูงอายุของไทยและกฎหมายการคุ้มครองแรงงานผู้สูงอายุของญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยเปรียบเทียบกฎหมายของญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) กับกฎหมายที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุในไทย ผลการวิจัย: กฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุของญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) มีบทบัญญัติให้ภาคเอกชน กำหนดอายุเกษียณอย่างน้อย 60 ปี สนับสนุนการจ้างงานต่อเนื่องถึงอายุ 70 ปี กฎหมายดังกล่าว มีบทลงโทษสำหรับการเลือกปฏิบัติในเรื่องอายุในการจ้างงาน ทั้งนี้ภาคเอกชนต้องให้การสนับสนุนการจ้างคนงานสูงอายุ ประการสำคัญ กฎหมายของทั้งสองประเทศบัญญัติให้มีองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุไว้ชัดเจนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ แต่สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายการจ้างงานผู้สูงอายุ คงมีแต่เพียงประกาศของกระทรวงแรงงานฯ ในลักษณะของการขอความร่วมมือจากภาคเอกชนเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีรัฐธรรมนูญบัญญัติก็ตาม ส่วนพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 เป็นเพียงการรับรองการสนับสนุนทางการแพทย์ การศึกษา และอาชีพ มิได้เกี่ยวกับการจ้างงานผู้สูงอายุ กฎหมายเหล่านี้ ไม่ครอบคลุมเท่ากับกฎหมายในญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สรุป: ประเทศไทยควรกำหนดแนวทางในการตรากฎหมายเฉพาะสำหรับการจ้างงานผู้สูงอายุขึ้น โดยใช้แนวทางและโครงสร้างที่ครอบคลุมอย่างญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เพื่อส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุของประเทศไทยต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
** ข้อความ ข้อคิดเห็น หรือข้อค้นพบ ในวารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการสื่อสารเป็นของผู้เขียน ซึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความและงานวิจัยนั้น ๆ โดยมิใช่ความรับผิดชอบของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี **
เอกสารอ้างอิง
Birren, J. E. (Ed.). (1989). Handbook of aging and psychology. Van Nostrand Reinhold.
Japan. (1971). Act on stabilization of employment of elderly persons (Act No. 68 of May 25, 1971). Japanese Law Translation. https://www.japaneselawtranslation.go.jp/en/laws/view/2621/en.
Kasikorn Research Center. (2021, April 30). Aging society...in full, are Thai people ready? Kasikorn Research. https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Aging-society-FB-30-04-21.aspx
Republic of Korea. (2022, February 17). Enforcement decree of the act on prohibition of age discrimination in employment and promotion of employment of senior citizens (Presidential Decree No. 32447). Korea Legislation Research Institute. https://elaw.klri.re.kr/eng_mobile/viewer.do?hseq=42954&type=sogan&key=6
Secretariat of the Senate. (2017). Constitution of the Kingdom of Thailand, B.E. 2560. Printing Division, Publishing Bureau, Secretariat of the Senate.
Siriwan, A. (2014). The country's elderly affairs under the United Nations commitment framework: The Madrid International Plan of Action on Ageing (MIPAA). Office of Elderly Promotion and Protection.
United Nations, Department of Economic and Social Affairs, Population Division. (2019). World population ageing 2019: Highlights (ST/ESA/SER.A/430). United Nations. https://population.un.org/wpp/Publications/Files/WPP2019_Highlights.pdf
Watcharapolprasith, K. (2014). Health behaviors of elderly people residing in Khlong Tamru Subdistrict Municipality, Mueang Chonburi District. [Unpublish master’s thesis]. Burapha University.