รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครูเพื่อหนุนเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย โดยใช้แนวคิดการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐาน

ผู้แต่ง

  • ชิตาพร เอี่ยมสะอาด สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
  • พัชรินทร์ จันทร์ส่องแสง สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
  • สุกิจ เอี่ยมสะอาด สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

DOI:

https://doi.org/10.14456/educu.2024.44

คำสำคัญ:

รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะ, การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก, ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย, การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครูเพื่อหนุนเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยโดยใช้แนวคิดการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐาน 2) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะที่สร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูปฐมวัย 38 คน ได้มาโดยการเลือกตามสะดวกหรือสมัครใจ เด็กปฐมวัย 162 คน ได้มาด้วยการสุ่มอย่างง่ายตามสัดส่วนขนาดประชากรจากนักเรียนที่ครูใช้รูปแบบ ใช้แผนการทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังเรียน ดำเนินการ 4 ระยะ คือ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน สร้างรูปแบบฉบับร่าง ทดลองใช้ และพัฒนาปรับปรุง เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบทดสอบ สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ พบว่า 1) รูปแบบมี 5 ขั้น ได้แก่ วางแผน (Plan : P) ปรับกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift : P) สร้างชุมชนนักปฏิบัติ (Professional Learning : P) ประเมินผล (Evaluation : E) และแบ่งปันสูตรความสำเร็จ (Model Sharing : M) ซึ่งเรียกรูปแบบนี้ว่า สามพีเอ็ม โมเดล (3PEM Model) อีกทั้งได้คู่มือการใช้รูปแบบ ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป แผนการพัฒนาสมรรถนะ และการนำไปใช้ ที่มีคุณภาพโดยรวมระดับมากที่สุด 2) ประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะที่สร้างขึ้น ได้แก่ ครูมีสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุกหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน เด็กปฐมวัยมีทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาหลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน ซึ่งด้านการคิดวิเคราะห์มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าการแก้ปัญหา และผู้ใช้มีความคิดเห็นต่อรูปแบบโดยรวมอยู่ระดับมาก

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย

กมล โพธิเย็น. (2564). Active Learning: การจัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 19(1), 11-28.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2565 มกราคม, 27). นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ.2565. http://www.moe.go.th

ชัชวีร์ แก้วมณี. (2564). การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครูปฐมวัยในศตวรรษที่ 21. วารสารราชภัฏยะลา, 16(3), 397- 405.

ชาริณี ตรีวรัญญู. (2558). รายงานวิจัยปฏิบัติการเรื่องบทเรียนของผู้ชี้แนะในโครงการปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน: การพัฒนาครู แกนนำโดยใช้การชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

ณัฏฐ์ธณิชาช์ ธารไทรทอง, ปัทมาวดี เล่ห์มงคล, และ อรพรรณ บุตรกตัญญู. (2565). ผลการจัดประสบการณ์การเล่นตามรูปแบบโลกการเล่นเชิงออกแบบผสานชุมชนสืบสอบต่อการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ, 15(1), 66-84.

ธนกฤต อั้งน้อย. (2563). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูใหม่ในศตวรรษที่ 21 ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร]. ผลงานวิจัย/วิทยานิพนธ์/IS คณะศึกษาศาสตร์. http://www.edu.nu.ac.th/th/news/docs/download/2020_06_23_15_09_59.pdf

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). สุวีริยาสาส์น.

นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล. (2561). พัฒนาการทางสมองด้านการคิดในเด็กปฐมวัย. ใน สุภาวดี หาญเมธี และคณะ, (บ.ก.). คู่มือพัฒนาสมอง EF Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย. (น.14-25). มติชน.

นันท์นภัส เกตน์โกศัลย์, กรันฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ์, และ สมคิด ปราบภัย. (2565). องค์ประกอบและตัวชี้วัดสมรรถนะการออกแบบการเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษาครุ สาขาวิชาสุขศึกษา เพื่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพของนักเรียน. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 36(3), 43-55.

พิสณุ ฟองศรี. (2557). การสร้างและพัฒนาเครื่องมือวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 4). ด่านสุธาการพิมพ์.

มยุรี เจริญศิริ. (2563). การพัฒนารูปแบบโรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของครูในการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning ที่ส่งเสริมความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษา [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร]. DSpace JSPUI. http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/3101

เลิศนภา พงษ์ดำ. (2561). การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานด้านการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครู : กรณีศึกษา โรงเรียนสุเหร่าดอนสะแก [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วัชรภัทร เตชะวัฒนศิริดำรง. (2565). การพัฒนาสมรรถนะครูคืนถิ่นภาคกลางตอนบนตามมาตรฐานวิชาชีพครูของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 33(1), 212-222.

ศิตา เยี่ยมขันติถาวร. (2562). ทำความเข้าใจกับแนวคิดพื้นฐานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 13(1), 158-165.

ศิวพร วิยะวงศ์. (2564). แนวทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อสนับสนุนให้เกิดองค์กรที่มุ่งเน้นการสร้างผลงานและขับเคลื่อนด้วยศักยภาพของบุคลากรเป็นสำคัญ (Performance Driven Organization). [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหิดล]. CMMU Digital Archive. https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/4144

สายฝน แสนใจพรม. (2561). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะของครูในการจัดการเรียนรู้ด้านสุขอนามัยสำหรับโรงเรียนบนพื้นที่สูง. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่, 19(1), 51-63.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาชาติ พ.ศ.2560-2579. พริกหวานกราฟฟิค.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). สภาวะการศึกษาไทย 2561/1562 การปฏิรูปการศึกษาในยุคดิจิทัล. ภาพิมพ์ จำกัด.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2566 มิถนายน, 1). รายงานประจำปี 2566. http://www.onec.go.th

อนุศรา อุดทะ และ จิติมา วรรณศรี. (2563). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะของครูปฐมวัย สังกัดกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 22(4), 305-316.

อพัชชา ช้างขวัญยืน, รุจโรจน์ แก้วอุไร, วินัย วงษ์ไทย, และ เอื้อมพร หลินเจริญ. (2564). การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดิจิทัล. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 23(3), 452- 465.

ภาษาอังกฤษ

Bloom, B.S. (1956). Taxonomy of Educational Objective Handbook 1: Cognitive Domain. David Mckey Company.Inc.

Botha, W. (2020 April,17). Cooperative Learning-Building cooperative learning skills and attitudes. https://www.researchgate.net/publication/340683766_Cooperative_ Learning-Building_cooperative_learning_skills_and_attitudes.

Cambell, D. T., & Stanley, J. C. (1969). Experimental and Quasi-Experimental Design for Research. Houghton Mifflin.

Costa, A.L. & Garmston, R.J. (2002). Cognitive Coaching: A Foundation for Renaissance School (2nd ed). Christopher Gordon.

Dufour, R., Dufour, R., & Eaker, R. (2008). Revisiting professional learning communities at work: New insights for improving schools. Bloomington, IL: Solution Tree Press.

Glatthorn, A. A. (1990). Differentiated Supervision. Washington D.C. : Association for Supervision and Curriculum Development.

Glickman, C. D. (2004). Supervision and instructional leadership: A developmental approach (6th ed). Allyn & Bacon.

HerZberg, F., Mausner, B. & Snyderman, B.B. (1959). The Motivation to Work. New. York: Wiley. https://www.semanticscholar.org/paper/The-motivation-to-work-Herzberg-Mausner/0400d371067878705b0c3de99fd237fa985fa874?sort=is-influential

Hord, S.M. (1997). Professional learning communities: Communities of continuous inquiry and improvement. Texas: Southwest Educational Development Laboratory. https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED410659.pdf

Joyce, B., & Weil, M. (1986). Models of teaching. Allyn and Bacon.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-09-30

รูปแบบการอ้างอิง

เอี่ยมสะอาด ช., จันทร์ส่องแสง พ. ., & เอี่ยมสะอาด ส. (2024). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครูเพื่อหนุนเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย โดยใช้แนวคิดการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐาน. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 52(3), EDUCU5203014. https://doi.org/10.14456/educu.2024.44

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles