การศึกษาผลการจัดกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ที่มีต่อการพัฒนาสุนทรียภาพของนักเรียนประถมศึกษา
คำสำคัญ:
กิจกรรมศิลปะนอกสถานที่, สุนทรียภาพ, นักเรียนประถมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและพัฒนาการจัดกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ที่มีต่อการพัฒนาสุนทรียภาพของนักเรียนประถมศึกษา 2) ศึกษาผลการจัดกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ที่มีต่อการพัฒนาสุนทรียภาพของนักเรียนประถมศึกษา 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อ
การจัดกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในโครงการเสริมศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art learning) โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม จำนวน 25 คน ทำกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ 6 กิจกรรม โดยใช้แผนการทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง เครื่องมือในการวิจัย 1) แผนการเรียนรู้ 7 แผน 2) แบบบันทึกการจัดการเรียนรู้นอกสถานที่ 6 ฉบับ
3) แบบทดสอบสุนทรียภาพ 4) คู่มือวิเคราะห์การแสดงออกทางสุนทรียภาพ 5) แบบสังเกตพฤติกรรม
การแสดงออกทางสุนทรียะ 6) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ 7) แบบสอบถามภูมิหลังทางศิลปะของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการประมาณค่า ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติทดสอบค่าที (t-test) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
ผลการวิจัยพบว่า 1) จากการศึกษาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้นอกสถานที่ทำให้เกิดการพัฒนาศิลปะนอกสถานที่เพื่อพัฒนาสุนทรียภาพของนักเรียน 6 กิจกรรม 2) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับพัฒนาการสุนทรียภาพของนักเรียนหลังเข้าร่วมกิจกรรม (M = 3.70) สูงกว่า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม (M = 1.91) อย่างมีนัยสำคัญที่ .05 3) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อกิจกรรมศิลปะนอกสถานที่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด กิจกรรมที่ชื่นชอบมากที่สุดได้แก่ กิจกรรมที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 36 และกิจกรรมที่ประทับใจมากที่สุดได้แก่ กิจกรรมที่ 4
เอกสารอ้างอิง
ภาษาไทย
คนึงหา สุภานันท์. (2544). ความคิดเห็นของครูศิลปศึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอน วิชาศิลปศึกษาตามทฤษฎี DBAE ในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นพุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
คำรณ หลำเจริญสุข. (2540). ความคิดเห็นของครูศิลปศึกษาเกี่ยวกับการสอนศิลปศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
ชุติมา เวทการ. (2551). การจัดการเรียนรู้สาระทัศนศิลป์บนพื้นฐานวัฒนธรรมชุมชน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธาริน กลิ่นเกษร. (2554). ผลของการส่งเสริมประสบการณ์ทางสุนทรียะผ่านกิจกรรมในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีต่อสุนทรียภาพของนักเรียนประถมศึกษา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์).
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
เนาวนิตย์ สงคราม. (2557). การศึกษานอกสถานที่ และการศึกษานอกสถานที่เสมือนเพื่อการเรียนรู้เชิงรุก. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มะลิฉัตร เอื้ออานันท์. (2545). กระบวนการเรียนการสอนทัศนศิลป์ในระดับประถมศึกษาสำหรับครูยุคใหม่. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
วิรุณ ตั้งเจริญ, วรรณรัตน์ ตั้งเจริญ, อำนาจ เย็นสบาย, พฤทธิ์ ศุภเศรษฐศิริ, จักรพงษ์ แพทย์หลักฟ้า, และ ตรีวิทย์ วิจิตรพลากาศ (2542). การวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์: กรณีศึกษาโรงเรียนไผทอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
ศิริวัฒน์ แสนเสริม. (2543). ความคิดเห็นของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะและนักวิชาการศิลปศึกษาเกี่ยวกับบทบาททางการศึกษาของพิพิธภัณฑ์ศิลปะในประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
อำไพ ตีรณสาร. (2543). วิธีการสอนศิลปศึกษา. สืบค้นจาก https://pioneer.netserv.chula.ac.th/~tampai1/ampai/cont3.htm
ภาษาอังกฤษ
D’Onofrio, A. & Nodine C. F. (1981). Children’s responses to painting. Studies in Art Education, 20(1), 14-23.
Edgar, D. (1969). Audiovisual methods in teaching. NY: Dryden Press.
Efland, A. D. (1979). Conceptions of teaching in art education. Art Education, 32(4), 21-33.
Mittler, G. A. (1986). Art in focus. Peoria, IL: Bennett & Mcknight.
Parson, M. J. (1987). How we understand art: A cognitive developmental account of aesthetic experience. New York: Cambridge University Press.
Tishman, S. (2006b). Five design elements of active learning experiences in art museums. Retrieved from https://www.cct.umb.edu/artmuseum.html
