การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้ เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ผู้แต่ง

  • ศุภณัฐ พานา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ยศวีร์ สายฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วลัย อิศรางกูร ณ อยุธยา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

คำสำคัญ:

ทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์, การรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์, แนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่ม, แนวคิด Magic If

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเป็นการวิจัยและพัฒนา มีระยะเวลาในการทดลอง 15 สัปดาห์ การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If และระยะการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบวัดทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และแบบวัดการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์  ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้  1. รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If ประกอบด้วย หลักการของรูปแบบการเรียนการสอน แนวทางในการจัดการเรียนการสอน การเตรียมการสอน และขั้นตอนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “TIMER” ได้แก่ (1) ขั้นการสนทนาเกี่ยวกับประเด็นทางประวัติศาสตร์ (Talk about historical issue) (2) ขั้นการจินตนาการเกี่ยวกับอดีต (Imagine about the past) (3) ขั้นการจัดการกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (Manage evidence) (4) ขั้นการสำรวจผ่านกาลเวลา (Exploration through time) และ (5) ขั้นการสะท้อนถึงอดีต (Refection to the past) ตลอดจนการวัดและประเมินผล 2. คุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If พบว่า นักเรียนมีทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีการเปลี่ยนแปลงของทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์ไปในทางที่ดีขึ้น

ประวัติผู้แต่ง

ศุภณัฐ พานา, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นิสิตระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ยศวีร์ สายฟ้า, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาประถมศึกษา ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วลัย อิศรางกูร ณ อยุธยา, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

อาจารย์ประจำแขนงวิชาหลักสูตรและการสอน สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

เอกสารอ้างอิง

รายการอ้างอิง
ภาษาไทย

ชุติมา มณีวัฒนา. (2550). เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการกำกับการแสดง 1. เอกสารไม่ได้ตีพิมพ์, คณะศิลปกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย.

วินัย พงศ์ศรีเพียร. (2552). อาจารยบูชา. กรุงเทพมหานคร: ศักดิ์โสภาการพิมพ์.

‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2558). แนวการสอนประวัติศาสตร์: ประวัติศาสตร์ไทย หลากหลายวิธีเรียน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สุเนตร ชุตินธรานนท์. (2554). พม่ารบไทย: ว่าด้วยการสงครามระหว่างไทยกับพม่า (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: มติชน.

สุเนตร ชุตินธรานนท์ และ คณะ. (2557). ชาตินิยมในแบบเรียนไทย (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: มติชน.

ภาษาอังกฤษ

Assessment Resource Center for History. (2013). Historical thinking skills scoring rubric. Retrieved from https://www.umbc.edu/che/arch/rubric.php

Barton, K., & Levstik, L. (2004). Teaching history for the common good. Mahwah, NJ: Lawrence Erlbaum Associates.

Centre for the Study of Historical Consciousness. (2014). The historical thinking project promoting critical historical literacy for 21st century. Retrieved from https://historicalthinking.ca

Colby, S. R. (2007). Students as historians: The historical narrative inquiry model’s impact on historical thinking and historical empathy (Unpublished Doctoral Dissertation). University of North Texas, Texas.

Davison, M. (2012). “It is really hard being in their shoes”: Developing historical empathy in secondary school students (Unpublished Doctoral Dissertation). University of Auckland, Auckland.

Endacott, J., & Brooks, S. (2013). An updated theoretical and practical model for promoting historical empathy. Social Studies Research and Practice, 8(1), 41-58.

Ercikan, K., & Seixas, P. (2015). Issues in designing assessments of historical thinking. Theory Into Practice, 54(3), 255-262.

Ferretti, R. P., MacArthur, C. D., & Okolo, C. M. (2001). Teaching for historical understanding in inclusive classrooms. Learning Disability Quarterly, 24(1), 59-71.

Foster, S. (2001). Historical empathy in theory and practice: Some final thoughts. In O. L. Davis, E. A. Yeager & S. J. Foster (Eds.), Historical empathy and perspective taking in the social studies. Lanham, MD: Rowman and Littlefield.

Heathcote, D. (2008). In my view: Means and ends: History, drama and education for life Primary History The primary education journal of The Historical Association, 48, 6-7.

Joyce, B., & Weil, M. (2011). Models of teaching (8th ed.). Boston: Pearson.

Kade, D., Özcan, O., & Lindell, R. (2013). Towards stanislavski-based principles for motion capture acting in animation and computer games. In International Conference in Illustration and Animation. Porto, Portugal.

National Center for History in the Schools. (1996). The national standards for history. Retrieved from https://www.sscnet.ucla.edu/nchs/standards

Nokes, J. (2011). Historical literacy. Social Studies, newsletter:Utah State Office of Education.

Nye, A., Hughes-Warrington, M., Roe, J., Russell, P., Deacon, D., & Kiem, P. (2011). Exploring historical thinking and agency with undergraduate history students. Studies in Higher Education, 36(7), 763-780.

Sexias, P., & Morton, T. 2013. The big six: Historical thinking concepts. Toronto: Nelson Education.

Smith, C. M., Gephardt, E. G., & Nestel, D. (2015). Applying the theory of stanislavski to simulation: Stepping into role. Clinical Simulation in Nursing, 11(8), 361-367.

The College Board. (2012). AP world history. Retrieved from https://apcentral.collegeboard.org/

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-09-30

รูปแบบการอ้างอิง

พานา ศ., สายฟ้า ย., & อิศรางกูร ณ อยุธยา ว. (2019). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบแสวงหาความรู้ เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(3), 454–474. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/218903