ผลของการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิงที่มีต่อผลสัมฤทธิ์และแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีผลการเรียนต่างกัน

ผู้แต่ง

  • แคทลียา ศรีแปลก โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม

คำสำคัญ:

วิธีการสอนแบบนิรนัย, โมบายเลิร์นนิง, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ, แรงจูงใจในการเรียน

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบ (1) ผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิงและวิธีการสอนแบบปกติ  (2) ผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนของนักเรียนได้รับการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิง (3) ผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบนิรนัยผ่าน
โมบายเลิร์นนิงกลุ่มเก่ง กลาง และอ่อน (4) แรงจูงใจในการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิงและวิธีการสอนปกติ และ (5) แรงจูงใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิงกลุ่มเก่ง กลาง และอ่อน
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
คือ แบบฝึกหัดผ่านโมบายเลิร์นนิง แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามแรงจูงใจในการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติพื้นฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว

            ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลอง (1) มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) กลุ่มเก่ง กลาง และอ่อน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนกลุ่มสูงมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มอ่อนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (4) มีระดับแรงจูงใจในการเรียนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (5) กลุ่มเก่ง กลาง และอ่อนมีแรงจูงใจในการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนกลุ่มสูงมีแรงจูงใจในการเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มปานกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ประวัติผู้แต่ง

แคทลียา ศรีแปลก, โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม

อาจารย์โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม

เอกสารอ้างอิง

รายการอ้างอิง
ภาษาไทย

โฆษิต จัตุรัสวัฒนากูล. (2557). ผลของการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการสอนเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือเป็นรายบุคคลที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการถ่ายโยงการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีระดับความสามารถต่างกัน (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

จิตรลดา วิวัฒน์เจริญวงศ์. (2555). ผลของการใช้เทคนิคการทดสอบย่อยที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา. วารสารวิชาการศรีปทุม, 9(2), 34-46.

ชีวัน บุญตั๋น. (2546). การใช้กลวิธีการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ และการมองเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่.

ณรงค์ กาญจนะ. (2558). เทคนิคและทักษะการสอนเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 2). สงขลา: โปรแกรมวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา.

ทวี สระน้ำคำ. (2551). ผลของวิธีสอนแบบนิรนัยและวิธีสอนแบบอุปนัยที่มีแบบฝึกหลังเรียนต่างกันโดยใช้บทเรียนบนเว็บในวิชาฟิสิกส์ที่มีต่อการคิดวิจารณญาณของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

ทิศนา แขมมณี. (2550). รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิศนา แขมมณี. (2552). วิธีสอนสำหรับครูมืออาชีพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นวพร วิชัย. (2556). ผลการใช้สื่อมัลติมีเดียที่มีการสรุปด้วยผังความคิดร่วมกับวิธีการสอนแบบอุปนัย-นิรนัย วิชาคอมพิวเตอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอรุณประดิษฐ. Veridian E-Journal, 6(1), 707-718.

พูลศรี เวศย์อุฬาร. (2554). Augmented reality วิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร. สืบค้นจาก https://repository.au.edu

มโนพัศ มณีโชติ. (2554). การจัดการความรู้สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ. สืบค้นจาก https://www.gotoknow.org/blog/manophat

ลิสตาติ สุกีมิน. (2554). การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีความสามารถของตนเองและทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้คิดทางสังคมสำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2560). โอเน็ตยังไม่กระเตื้องผลคะแนนเฉลี่ยไม่ถึงครึ่งทุกวิชา. สืบค้นจาก https://www.thaipost.net/main/detail/5833

สาคร บุตรจันทร์. (2554). การสอนแบบคละชั้น (โรงเรียนขนาดเล็ก). สืบค้นจาก https://www.dlit.ac.th/pages/plc/viewplc.php?lid=1&lname=&cid=04&subjectid=&gradeid=&plcid=000365&title=การสอนแบบคละชั้น%20 (โรงเรียนขนาดเล็ก)%20ผอ.สาคร%20บุตรจันทร์

สุกิจ ทวีศักดิ์. (2555). การพัฒนาคู่มือเสริมสร้างแรงจูงใจสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาที่ขาดแรงจูงใจ: การวิจัยแบบผสมวิธี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

อรศิริ เลิศกิตติสุข และ ดวงกมล ลิมโกมุท. (2552). การสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน. เข้าถึงโดยhttps://www.thaigoodview.com/node/42182

ภาษาอังกฤษ

British Council. (2002). Deductive approach. Retrieved from https://www.teachingenglish.org.uk/article/deductive-approach

Gianfranco, C. (2015). The ten pillars of effective teaching and learning. Retrieved from https://www.linkedin.com/pulse/ten-pillars-effective-teaching-learning-gianfranco-conti-ph-d

Hied, J. (2005). Inductive and deductive grammar teaching: What is it?, and does it work?. Retrieved from https://oupeltglobalblog.com/2015/04/24/inductive-and-deductive-grammar-teaching/

Pintrich, P. R. (2003). A motivational science perspective on the role of student motivation in learning and teaching contexts. Journal of educational Psychology, 95(4), 667-686.

Zhao, L. (2012). Investigation into motivation types and influences on motivation: The case of Chinese non-English majors. English language teaching, 5(3), 100-19.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-09-30

รูปแบบการอ้างอิง

ศรีแปลก แ. (2019). ผลของการสอนแบบนิรนัยผ่านโมบายเลิร์นนิงที่มีต่อผลสัมฤทธิ์และแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีผลการเรียนต่างกัน. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(3), 98–117. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/218821