การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคการใช้ผังกราฟิก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคการใช้ผังกราฟิก โดยให้นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ70 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ70 ขึ้นไป และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคการใช้ผังกราฟิก กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านเหล่าโนนคูณ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 จำนวน 10 คน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ในชั้นเรียนตามแนวคิด Kemmis & McTaggart (1992, อ้างถึงใน ยาใจ พงษ์บริบูรณ์, 2537) ประกอบด้วย 3 วงจรปฏิบัติการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน รวม 16 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้สะท้อนผลการปฏิบัติการวิจัย ประกอบด้วย แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาท้ายวงจร และ 3) เครื่องมือที่ใช้ประเมินผลการวิจัย ประกอบด้วย แบบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา แบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นแบบสอบถามชนิดปลายปิด ลักษณะมาตรประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้ค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ (%) ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
- นักเรียนมีคะแนนความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเฉลี่ยเท่ากับ 45.90 คิดเป็นร้อยละ 76.50 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 8 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้และ
- นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคการใช้ผังกราฟิก ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.54, S.D. = 0.46) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ครูจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงออก (x̄ = 4.82, S.D. = 0.39) รองลงมาคือ ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกกิจกรรมที่ลงมือปฏิบัติจริง ( x̄ = 4.77, S.D. = 0.44) และนักเรียนได้ทบทวนความรู้และเข้าใจเนื้อหาใหม่ที่ครูสอน (x̄ = 4.71, S.D. = 0.47) ตามลำดับ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ . (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กรรณิการ์ อ่าท้าว. (2555). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลซิปปา เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ฐาศิริ ไชยลึก. (2552). ผลการใช้รูปแบบซิปปาร่วมกับเทคนิคการใช้ผังกราฟิกตอการคิดเชิงมโนทัศน์การเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วารสารหลักและการสอนทักษิณ, 4(1), 53-60.
ทิศนา แขมมณี. (2550). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 16. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (ฉบับปรับปรุงใหม่). พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปรีชา เนาว์เย็นผล. (2538). การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปอเรียม แสงชาลี. (2549). ผลการเรียนเรื่องเส้นขนาน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) และกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบของ สสวท. ที่มีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์. (2544). การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: แนวคิดวิธีและเทคนิคการสอน. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์กรุฟแมนเนจเม้นท์.
ภาวิช ทองโรจน์. (2551). แก้ไขปัญหาการศึกษาของชาติ. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2558, จากhttps://www.facebook.com/cheerpavich? fref=nf.
ยาใจ พงษ์บริบูรณ์. (2537). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน. ขอนแก่น: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เรณู ไม้แก่น. (2550). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์และเจตคติต่อการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยรูปแบบการสอนผังกราฟิกกับการสอนแบบปกติ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
โรงเรียนบ้านเหล่าโนนคูณ. (2558). การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ขอนแก่น: กลุ่มบริหารวิชาการ โรงเรียนบ้านเหล่าโนนคูณ.
ล้วน สายยศ และ อังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2558). เด็กไทยอ่อนคณิตศาสตร์. ค้นเมื่อ 28 เมษายน 2558, จากhttp://www.sensemath.com/.
สมเดช บุญประจักษ์. (2540). การพัฒนาศักยภาพทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 โดยการใช้การเรียนแบบร่วมมือ. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สมพงษ์ ปั้นหุ่น. (2552). การพัฒนาแบบตรวจสอบรายการประเมินแบบเสริมพลังอำนาจ เพื่อพัฒนาทักษะการประเมินของครูและนักเรียน. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สิริพร ทิพย์คง. (2545). หนังสือประสบการณ์วิชาคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา“เรื่องการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
Beyer, K. B. (1997). Improving Student Thinking: A Comprehensive Approach. CA: Allyn and Bacon.
Clarke, John H. (1991). Using Visual Organizers to Focus on Thinking. Journal of Reading, 34(7), 526-534.
Dwight Waldo. (1984). The administrative state: study of the political theory of merican public administration. New York: The Ronald Press Company.
Hughes, Faya Noreen. (2005). The effects of utilizing graphic organizers with traditional basal reading instruction on sixth – grade reading comprehension achievement scores. New Jersey: Prentice Hall.
Molefe, J. K. (2004). Challenging student though mathematics: A culturally relevant problem – solving. Abstract from: ProQuest File: Dissertation Abstracts International Item