สภาพปัญหาและแนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัยของนักเรียน โรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับสภาพ ปัญหาและแนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 และเปรียบเทียบสภาพ ปัญหาและแนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จำแนกตามวุฒิการศึกษา และประสบการณ์ทำงานของครู ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม ด้านบริการความปลอดภัย และด้านสวัสดิศึกษา ประชากรที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 321 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 24 ข้อ มีค่า IOC ตั้งแต่ .67-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้ออยู่ระหว่าง .43 - .74 มีความความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแปรปรวนเดียว (One-way Analysis of Variance: One-Way ANOVA) การเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีของ เชฟเฟ่ (Sheffe’s Method) และวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพการจัดการความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 โดยรวมและรายด้าน ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านบริการความปลอดภัยและด้านสวัสดิศึกษาอยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับส่วนปัญหาการจัดการความปลอดภัยของนักเรียน โดยรวมและรายด้าน ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านบริการความปลอดภัยและด้านสวัสดิศึกษาอยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ
- การเปรียบเทียบปัญหาการจัดการความปลอดภัย ของนักเรียนโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 โดยรวมและรายด้านจำแนกตามระดับชั้น แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ - แนวทางการพัฒนาการจัดการความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ได้แก่
3.1 แนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เรียงลำดับค่าความถี่จากสูงไปหาต่ำ 3 อันดับแรก ได้แก่ มอบความรู้ความเข้าใจให้กับนักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ปรับปรุงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเดิมในโรงเรียนให้มีความแข็งแรงคงทน เช่น สนามเด็กเล่นและจัดทำแผนพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางกายภาพในโรงเรียน ตามลำดับ
3.2 แนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัย ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม เรียงลำดับค่าความถี่จากสูงไปหาต่ำ 3 อันดับแรก ได้แก่ ช่วยกันดูแลรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ของโรงเรียน ปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมในโรงเรียน เช่น การเคารพกฎของโรงเรียนและการร่วมดำเนินการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของโรงเรียนให้น่าอยู่ ตามลำดับ
3.3 แนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัย ด้านบริการความปลอดภัย เรียงลำดับค่าความถี่จากสูงไปหาต่ำ 3 อันดับแรก ได้แก่ ปรับปรุงรถตู้โรงเรียนเพื่ออำนวยสะดวกในการรับส่งนักเรียนให้มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือสร้างมาตรฐานในโรงเรียนสู่ระดับสากลในการส่งเสริมคุณภาพ หรือลดอันตรายในโรงเรียนและปรับปรุงสนามกีฬาให้มีความปลอดภัยเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย ตามลำดับ
3.4 แนวทางพัฒนาการจัดการความปลอดภัย ด้านสวัสดิศึกษา เรียงลำดับค่าความถี่จากสูงไปหาต่ำ 3 อันดับแรก ได้แก่ ศึกษาสภาพและความต้องการของครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อพัฒนา การมอบความรู้ความเข้าใจ วิธีการป้องกันตนเองตามสถานการณ์ต่างๆของเด็กแต่ละช่วงวัยและอบรมการส่งเสริมสุขภาพอนามัยในโรงเรียน รณรงค์เรื่องความปลอดภัยในโรงเรียนค่าเฉลี่ยเท่ากัน ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.