Chinese trader with market forming and circle-trading in Vientiane
Keywords:
GMS, Chinese trader, the capital of Vientiane, Chinese goodsAbstract
This article aimed to find out the cause, status, and process of business territory setting-up of the Chinese traders in Vientiane after a cooperative project on the Greater Mekong Sub-region or GMS. The study was conducted through historical and anthropological research methodology: interview the Chinese and the Laotians, observation, official document references, academic studies and information from newspapers.
The finding revealed that the new Chinese traders had entered into the capital of Vientiane after the GMS project towards the receptive rules and beneficial relationships between the governments of China and Lao. So the Chinese traders formed markets and imported goods from China. Each group set up trading networks among their groups to the manufactures in China. Then the business territory setting-up of the Chinese traders provided low-priced goods from Chinese in markets. Subsequently, Chinese goods were constantly distributed over Vientiane markets. Moreover the strength commerce of Chinese traders’ businesses had attracted Lao traders to trade in Chinese goods. This had become a circulation of the Chinese goods to many towns in Lao as well.
References
คณะอนุกรรมการทบทวน รวบรวมและเขียนประวัติศาสตร์นครหลวงเวียงจัน 450 ปี. (2010). นครหลวงเวียงจัน 450 ปี. นครหลวงเวียงจัน : นครหลวงเวียงจัน.
ASTV ผู้จัดการ. (2549) บริษัทจีนสร้างศูนย์การค้าครบวงจรแห่งใหม่ในลาว. ค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2556,จาก http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9490000100010
พิทยา ฟูสาย. (2549). การตอบสนองของคนในท้องถิ่นที่มีต่อตลาดจีนในเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ภูวดล ทรงประเสริฐ. (2547). จีนโพ้นทะเลสมัยใหม่. กรุงเทพ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ไม่ปรากฏผู้แต่ง. (2547). แนวคิดชี้นำของประธานคำไต สีพันดอน ต่อภารกิจปกปักรักษา และพัฒนาประเทศชาติ. เวียงจัน : คณะโฆษณาอบรมศูนย์กลางพรรค. (ภาษาลาว)
ไม่ปรากฏผู้แต่ง. (2006). เอกสารกองประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8 ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว. นครหลวงเวียงจัน. (ภาษาลาว)
ยศ สันตสมบัติ. (2557). มังกรหลากสี : การขยายอิทธิพลเหนือดินแดนและพันธกิจเผยแผ่อารยธรรมใน
อุษาคเนย์. เชียงใหม่ : ศูนย์ศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ผู้จัดการออนไลน์. (2549). สินค้าอุปโภค-บริโภคจีนกว่า 70%ล้นตลาด. ค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2558, จาก http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000020422&TabID=3&.
สกินเนอร์, จี วิลเลียม. (2529). สังคมจีนในประเทศไทย : ประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์. แปลโดย พรรณี ฉัตรพลรักษ์ และคนอื่นๆ. กรุงเทพ : ไทยวัฒนาพานิช.
สีคูน บุนวิไล. ( 2007). หมากผลความร่วมมือลาว-จีน. นครหลวงเวียงจัน : นครหลวงเวียงจัน. (ภาษาลาว)
หน่วยค้นคว้าเกี่ยวกับกัมพูชาและลาว. (2539). ทิศทางแห่งการเป็นคู่ร่วมมือ กัมพูชา ลาว และอาเซียนร่วมอยู่ในเอเชียอาคเนย์อันเป็นหนึ่งเดียว. มาเลเซีย : สถาบันค้นคว้านโยบาย. (ภาษาลาว)
ผู้จัดการออนไลน์. (2551). เหมือนกันดิก! โนเกียจีนระบาดหนักในลาว. ค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2556,จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=95100000279
อักษรศรี พานิชสาส์น. (2549). การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-มณฑลตะวันตกเฉียงใต้ของจีน : ความเป็นไปได้ โอกาส และอุปสรรค. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. สาขาวิชาสหวิทยาการ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อรัญญา ศิริผล. (2556). ผู้ค้าจีนในชายแดนลุ่มน้ำโขง. เชียงใหม่ : ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ผู้ให้สัมภาษณ์
ต้า พิมมะวง ผู้ให้สัมภาษณ์, นารีรัตน์ ปริสุทธิวุฒิพร เป็นผู้สัมภาษณ์, ที่ตลาดหนองด้วง นครหลวงเวียงจัน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553.
โม ผู้ให้สัมภาษณ์, นารีรัตน์ ปริสุทธิวุฒิพร เป็นผู้สัมภาษณ์, ที่บ้านดงเมี่ยง นครหลวงเวียงจัน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554.
หวินชิง. ผู้ให้สัมภาษณ์, นารีรัตน์ ปริสุทธิวุฒิพร เป็นผู้สัมภาษณ์, ที่ตลาดหนองด้วง นครหลวงเวียงจัน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553.
เหมย ผู้ให้สัมภาษณ์, นารีรัตน์ ปริสุทธิวุฒิพร เป็นผู้สัมภาษณ์, ที่ตลาดซันเจียง นครหลวงเวียงจัน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2553.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการบัญชีและการจัดการ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว