การพัฒนาตัวชี้วัดเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานของ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม: การศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎีฐานราก

Main Article Content

ชลธิชา ทิพย์ประทุม

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทฤษฎีฐานรากเกี่ยวกับตัวชี้วัดเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โดยการหาข้อสรุปเชิงทฤษฎีจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จำนวน 12 คน ซึ่งใช้การเลือกผู้ให้ข้อมูลหลักแบบเจาะจง และเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกต การจดบันทึก และการทบทวนวรรณกรรม ผลการวิจัย พบว่า 1) ด้านความโปร่งใส ได้แก่ การเปิดโอกาสให้สามารถร้องเรียนและให้คำแนะนำได้อย่างเปิดเผย และมีการตอบข้อซักถามอย่างตรงไปตรงมา ตลอดจนสามารถจัดการกับข้อร้องเรียนได้ไม่ต่ำกว่า 90% จาก
ข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นทั้งหมด 2) ด้านความพร้อมรับผิด ได้แก่ การมีกฎเกณฑ์ และมาตรการในการแสดงความรับผิดชอบสำหรับความผิดพลาด มีการเปิดเผยข้อมูลอันไม่สุจริตและวิธีแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินงานโดยมีข้อผิดพลาดไม่เกิน 5% ตลอดจนรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความผิดพลาดได้ 100% 3) ด้านความปลอดจากการทุจริตในการปฏิบัติงาน ได้แก่ การมีมาตรการป้องกันการทุจริต มีการให้รางวัลกับผู้พบเห็น และมีการเปิดโอกาสให้บุคลากรสามารถทวงถามเมื่อสงสัย ตลอดจนมีผลการดำเนินงานที่ปลอดทุจริต 100% 4) ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร ได้แก่ มีการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต และมีการสร้างมาตรการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต ตลอดจนมีการให้รางวัลหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอย่างสุจริตปีละ 1 หน่วยงาน
5) ด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน ได้แก่ มีการมอบหมายงานและโอกาสก้าวหน้าตามความสามารถ มีการประเมินผลงาน
เป็นแบบ 360 องศาเป็นรายไตรมาส และกำหนดให้บุคลากรใหม่ทุกคนต้องเข้ารับการปฐมนิเทศตามคู่มือมหาวิทยาลัย ภายใน
15 วัน ตลอดจนต้องมีผลการประเมินการปฏิบัติงานไม่ต่ำกว่า 80% และ 6) ด้านการสื่อสารภายในหน่วยงาน ได้แก่ มีการแทรก
วาระเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเข้าไปในทุกครั้งที่มีการประชุม และมีการวัดผลจากใช้ช่องทางการสื่อสาร
แต่ละประเภท ตลอดจนมีการสุ่มตรวจสอบความเข้าใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องมีความเข้าใจไม่ต่ำกว่า 80%

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทิพย์ประทุม ช. (2019). การพัฒนาตัวชี้วัดเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานของ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม: การศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎีฐานราก. วารสารการบัญชีและการจัดการ, 10(4), 133–143. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/mbs/article/view/222894
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชาย โพธิสิตา. (2556). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด
(มหาชน).

มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม. (2560). เจตจำนงสุจริตในการบริหารงาน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม.

สมคิด [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 24 มกราคม 2561.

สมจิต [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561.

สมใจ [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 31 มกราคม 2561.

สมชัย [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 10มกราคม 2561.

สมถวิล [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 24 มกราคม 2561.

สมพร [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 17 มกราคม 2561.

สมพิศ [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561.

สมมาตร [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561.

สมฤดี [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561.

สมศรี [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561.

สมสกุล [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 31 มกราคม 2561.

สมหวัง [นามสมมติ] (2561). ผู้ให้ข้อมูลหลัก. สัมภาษณ์วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561.

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2557). คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2557.
กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

Charmaz. K. (2006). Constructing Grounded Theory: A Practical Guide through Qualitative Analysis. California:
Sage Publication.

Dervis, K. (2006). Governance and democracy. Journal of Democracy. 17(4), 153-159.

Said, Jamaliah., Alam, Md. Mahmudul. and Khalid, Maizatul. Akmar. (2016). Relationship between good Governance
and integrity system: Empirical study on the public sector of Malaysia. Humanomics, 32(2), 151-171.

Willis, A. (2005). Corporate governance and management of information and records. Records Management Journal,
15(2), 86-97.