ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการออมของพนักงานบริษัทเอกชนในเขตพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการออม ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการออม และพฤติกรรมการออมของพนักงานบริษัทเอกชนในเขตพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ พนักงานบริษัทเอกชนในเขตพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าทดสอบผลรวมของสัดส่วนกำลังสอง และสถิติวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 41 – 50 ปี สถานภาพโสด ไม่มีบุตร ระดับการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ลักษณะงานที่ปฎิบัติเป็นงานทางด้านงานการตลาด/การขาย ทำงานในระดับปฎิบัติการ (เจ้าหน้าที่/พนักงาน) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 40,000 บาท และมีรายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 30,000 บาท ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่อปัจจัยทางสังคมและปัจจัยทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยตนเองเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการออม จะออมเมื่อมีโอกาสพิเศษ มีความไม่แน่นอนในการออม จำนวนเงินในแต่ละครั้งในการออมน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10,000 บาท รูปแบบในการออมคือการนำเงินฝากธนาคาร เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ส่วนผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการออม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออมของของพนักงานบริษัทเอกชน ในเขตพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีความคลาดเคลื่อนในการพยากรณ์เท่ากับ 1.129
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรุงเทพธุรกิจ. (2565). ไทยเจอ'วิกฤติโครงสร้างประชากร' เริ่มขาดแรงงาน เสี่ยงจนตอนแก่.https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1062925
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). การสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ทั่วราชอาณาจักร. https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2024/20240702120458_45133.pdf
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2565). รายงานผลการสำรวจทักษะทางการเงินของไทย ปี 2565. https://www.bot.or.th/content/dam/bot/image/research-and-publications/2565ThaiFLsurvey.pdf
นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์. (2567). คนไทยพร้อมแค่ไหน เรื่องจัดการเงิน. https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/retirement-plan/deposit-preparation-for-money-management-for-thai.html
พรอนงค์ บุษราตระกูล, ณรงค์ฤทธิ์ อัศวเรืองพิภพ, อนิรุต พิเสฏฐศลาศัย, รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น, รัฐชัย ศีลาเจริญ และธนวิต แซ่ซือ. (2564). ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ: การจัดทำ และการประยุกต์ใช้เชิงนโยบาย. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร (เดือนพฤษภาคม 2567). https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2024/20240613133523_65683.pdf
Keynes, J.M. (1936). The general Theory of Employment, Interest and Money. Harcourt Brace Jovanovich.
ศิวัช กรุณาเพ็ญ. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการออมและพฤติกรรมการออมของคน Gen Y. [การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
CBRE. (2566). https://property.cbre.co.th/th
ขจรเกียรติ เพียรสร้าง. (2560). พฤติกรรมการออมของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์นาวิกโยธิน จำกัด. [งานนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
เบญญาภา สุขนึก. (2562). พฤติกรรมการออมและปัจจัยที่มีผลต่อการออมของพนักงานธนาคารในกรุงเทพมหานคร. [การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
Yang Zhengsen. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของพนักงาน Generation Z. [การศึกษารายบุคคลบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. https://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Yang.Zhen.pdf
กัลยา วาณิชย์บัญชา. (2544). หลักสถิติ (พิมพค์รั้งที่ 6). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.