รูปแบบความสัมพันธ์ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทาน ในประเทศไทย

Main Article Content

จันทร์เพ็ญ วิศัลยาขจรเดช
ศิรชญาน์ การะเวก
สุชาติ ปรักทยานนท์
ศิริพร สัจจานันท์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานในประเทศไทย 2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานในประเทศไทย 3) เพื่อพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิผลต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานในประเทศไทย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ กลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งสิ้น 421 ราย และการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 15 ท่าน ได้แก่ ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารพร้อมทาน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Model: SEM)


          ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทาน ในประเทศไทย ได้แก่ การจัดการความรู้ การผลักดันธุรกิจ การจัดการโซ่อุปทาน ความสามารถในการแข่งขัน และผลการดำเนินของธุรกิจ  มีอิทธิพลทางตรงต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจอาหารพร้อมทาน ในประเทศไทย ซึ่งค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้องของโมเดลจำลองสมการเชิงโครงสร้างมีความเหมาะสมกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-Square = 52.10, df = 59, p-value = 0.000, RMSEA = 0.000) และความเป็นไปได้ของรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทาน  ในประเทศไทย มีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Hsu, I. C. and Wang, Y. S. (2008). A Model of Intra organizational Knowledge Sharing : Development and Initial Test. Journal of Global Information Management, 16(3), 45 - 73.

Kline, R. B. (2011). Principles and Practice of Structural EquationModeling. 3rd ed. New York: The Guilford Press.

Lee, S. (2008). Drivers for the participation of small and medium-sized suppliers in green supply chain initiatives. Supply Chain Management: An International Journal,13(3), 185-198.

Lee, M., Kim, S. T. and Choi, D. (2012). “Green Supply Chain Management and Organizational Performance”, Industrial Management & Data Systems, 112(8), 1148-1180.

Ritthaisong, Y., Johri, L. M. and Speece, M. (2014). “Sources of Sustainable Competitive Advantage: The Case of Rice Milling Firms in Thailand”, British Food Journal, 116(2), 272-291.

Sambasivan, M. and et al. (2009). “Impact of Knowledge Management in Supply Chain Management: A Study in Malaysian Manufacturing”, Knowledge and Process Management, 16(3), 111-123.

Walton, S., Handfield, R. and Melnyk, S. (1998). The Green Supply Chain: Integrating Suppliers into Environmental Management Processes. International Journal of Purchasing and Materials Management, 34(2), 2-11.

Walker, H. and et al. (2008). Drivers and Barriers to Environmental Supply Chain Management Practices: Lessons from the Public and Private Sectors. Journal of Purchasing & Supply Management, 14(1), 69-85.

Zhu, Q. and et al. (2008). Green Supply Chain Management Implications for Closing the Loop. Transportation Research Part E., 4(4), 1-18.