แนวทางการสร้างมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ตามหลักทุติยปาปณิกธรรม 3

Main Article Content

สุวรรณา เปี่ยมมนัส ธานี เกสทอง , วรกฤต เถื่อนช้าง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพการมีมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 และ 2) เพื่อหาแนวทางการสร้างมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ตามหลักทุติยปาปณิกธรรม 3 การวิจัยนี้ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณเก็บข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามคือ ผู้บริหารและข้าราชการครู จำนวน 285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม การทดสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้เท่ากับ 0.99 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ รวมจำนวน 9 รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา  ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการมีมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก  2. แนวทางการสร้างมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ตามหลักทุติยปาปณิ-กธรรม 3 ประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการสื่อสาร พบว่า ควรใช้คำถามที่เปิดโอกาสจะช่วยให้บุคลากรมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันความคิดเห็นของพวกเขาได้อย่างอิสระ 2) ด้านการรู้เท่าทันตนเอง พบว่า ผู้บริหารควรรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนและแม่นยำ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด 3) ด้านการยอมรับตนเอง พบว่า ผู้บริหารควรเสนอความคิดเห็นของตนอย่างเปิดเผยและเสนอแนวทางการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ 4) ด้านการจูงใจ  พบว่า ผู้บริหารควรสร้างการตระหนักรู้ให้ครูและบุคลากรเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5) ด้านความไว้ใจ พบว่า ผู้บริหารควรมอบหมายงานที่มีความสำคัญและท้าทายเพื่อสร้างประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการเรียนรู้และการสอน 6) ด้านการเปิดเผยตนเอง  พบว่า ผู้บริหารควรสร้างชุมชนเรียนรู้ภายในองค์กร โดยสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และ 7) ด้านการจัดการความขัดแย้ง พบว่า ผู้บริหารควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นหรือปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบในการขัดแย้ง

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)