วิเคราะห์คติธรรมที่ปรากฎในจิตรกรรมฝาผนังของวัดในจังหวัดนครสวรรค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาความเป็นมาและความสำคัญภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัดจังหวัดนครสวรรค์ 2) เพื่อศึกษาคติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังของวัดจังหวัดนครสวรรค์ 3) เพื่อวิเคราะห์คติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังจังหวัดนครสวรรค์ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาภาคเอกสาร ดังผู้วิจัยจักได้สรุปผลดังนี้ ผลการวิจัยพบว่า
1) ความเป็นมาและความสำคัญภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัดจังหวัดนครสวรรค์ ประวัติความเป็นมาของจิตรกรรมฝาผนังไทยนับจากยุคก่อนประวัติศาสตร์มาสู่ยุคประวัติศาสตร์ โดยเริ่มจากสมัยทวารวดี สมัยศรีวิชัย สมัยสุโขทัย เรื่อยมา จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เพื่อให้ทราบถึงรูปแบบของจิตรกรรมฝาผนังไทย ที่มีวิวัฒนาการมาถึงปัจจุบันนี้ เมื่อหลายพันปีมาแล้ว มนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์เคยอาศัยอยู่ในดินแดนประเทศไทยในปัจจุบัน และได้ทิ้งหลักฐานไว้ในงานด้านศิลปะ ไปทั่วทุกภาคของประเทศ มนุษย์กลุ่มนี้ทิ้งร่องรอยไว้ให้ศึกษามากมาย เช่น โครงกระดูก เครื่องมือเครื่องใช้ ศิลปะภาพเขียนสีบนผนังถ้ำ และภาชนะเครื่องปั้นดินเผา เป็นประเภทลายเส้นสีเดียว ลายเลขาคณิต หรือลายก้นหอย ลายดอกไม้ใบไม้ และรูปคนหรือสัตว์ที่วาดได้ไม่สวยงามนัก จัดเป็นงานศิลปะประเภทแรกเริ่ม เวลาต่อมาได้เข้าสู่สมัยประวัติศาสตร์พ่อค้าชาวอินเดีย เดินทางเข้ามาค้าขาย ในภูมิภาคนี้และรับศาสนาทีเผยแผ่จากพระภิกษุหรือนักบวชไว้ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม ก่อให้เกิดงานช่างหรืองานศิลปกรรมทางศาสนาซึ่งรวมถึงงานจิตรกรรม ส่วนรูปแบบของจิตรกรรมฝาผนังไทยสมัยประวัติศาสตร์นั้น มีวิวัฒนาการความเป็นมาจนถึงปัจจุบัน
2) คติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังของวัดจังหวัดนครสวรรค์ 1. คติธรรมจากภาพมารผจญ คือ บุญกิริยาวัตถุ 10 บารมี 10 2. คติธรรมจากภาพเวสสันดรชาดก คือ การบำเพ็ญทานบารมี 3. คติธรรมจากจิตกรรมฝาผนังภาพนรก คือ อกุศลกรรมบถ 10 อบายมุข 6 4. คติธรรมจากภาพเทวดาชุมนุม คือ ธรรมเปนโลกบาล 2 มหากุศล 8 และ5. คติธรรมจากภาพทศชาติชาดก
3) วิเคราะห์คติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังจังหวัดนครสวรรค์ เปนมรดกทางวัฒนธรรมเปนสมบัติของคนไทยทุกคน ควรรักษาและอนุรักษไวเพื่อใหชนรุนหลังไดศึกษาใหเห็นคุณคาของมรดกของไทยทุกคน เพราะภาพจิตรกรรมไมเพียงแตประดับฝาผนังใหสวยงามเทานั้น ยังสอดแทรกเหตุการณ คติธรรมวิถีชีวิตสังคมในสมัยนั้นๆ ดวยผลการศึกษาวิเคราะห์กิจกรรมฝาผนังทั้ง 4 วัดในจังหวัดนครสวรรค์ ปรากฏว่าจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าได้อย่างเด่นชัดดังนี้ 1) คุณค่าด้านความเชื่อและศาสนา 2) คุณค่างานทางวรรณกรรมเรื่องจากความเลื่อมใสศรัทธาในเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3) คุณค่างานประติมากรรมจากคำบอกเล่าเรื่องราวของเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 4) คุณค่างานทางด้านสถาปัตยกรรมเมื่อมีการสร้างรูปเคารพแล้วจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างสถานที่เพื่อเก็บรูปเคารพ 5) คุณค่างานทางด้านจิตรกรรมเมื่อมีการสร้างศาสนสถานขึ้นคงจะเห็นว่าพื้นที่บางส่วนยังว่างอยู่โดยเฉพาะฝาผนังจึงมีการเขียนภาพต่างๆ ลงไปเพื่อความสวยงามและแฝงด้วยคติธรรม.