การตอบสนองและการตรวจสอบข่าวปลอมของประชาชน

Main Article Content

พนม คลี่ฉายา
พยุง มีสัจ
องอาจ อุ่นอนันต์
กมลรัตน์ กิจรุ่งไพศาล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการตอบสนองและการจัดการข่าวปลอมของประชาชน ดำเนินการวิจัยด้วยวิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 1,120 คน จากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดกาญจนบุรี ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลในช่วงกลางปี 2563 ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างพบเห็นข่าวปลอมประเภทข่าว ให้ความรู้ และโพสต์ ในระดับมาก ในขณะที่พบเห็นข่าวปลอมประเภทภาพ และ การแสดงท่าที ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มอายุพบว่า กลุ่มอายุ 18-22 ปี และ กลุ่ม 36-45 ปี พบเห็นข่าวปลอมทุกประเภทในระดับมาก กลุ่มตัวอย่างอายุ 23-35 ปี และ กลุ่ม 46-55 ปี พบเห็นข่าวปลอมประเภทข่าว โพสต์ และให้ความรู้ในระดับมาก  ทั้งนี้กลุ่มอายุ 56-59 ปี และ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป พบเห็นข่าวปลอมโดยรวมในระดับปานกลาง ด้านการตอบสนองต่อข่าวปลอมพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีการตั้งคำถามกับข่าวปลอม อ่านข่าวปลอมด้วยความรู้สึกเป็นกลาง คิดว่าข่าวปลอมเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหาย แจ้งให้คนอื่นทราบว่าเป็นข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริง แสดงความเห็นว่าอาจจะเป็นข่าวปลอม อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างเคยหลงเชื่อข่าวปลอมเมื่ออ่านเฉพาะพาดหัวข่าว หรือส่วนนำข่าว เชื่อว่าข่าวปลอมนั้นอาจจะเป็นจริงได้ เลือกอ่านเฉพาะข่าวที่ตนเองสนใจแล้วก็ปักใจเชื่อเลย ปักใจเชื่อแม้จะมีคนโต้แย้งว่าเป็นข่าวปลอม และเคยส่งต่อข่าวปลอม แสดงความเห็นสนับสนุนข่าวปลอม ด้านการตรวจสอบข่าวปลอมพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ระบุถูกต้องว่าเป็นข่าวปลอมประเภทโพสต์ของบุคคล พิจารณาจากข้อมูลรายละเอียด อาจจะมีอคติหรือมุ่งโจมตี บัญชีเจ้าของโพสต์ และตอบสนองโดย “ไม่ส่งต่อ” สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ระบุไม่ถูกต้องว่าเป็นข่าวปลอม พิจารณาจากภาพประกอบข่าว ข้อมูลรายละเอียด เรื่องราวเหตุการณ์ และตอบสนองโดย “ส่งต่อ” นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่าไม่แน่ใจ  พิจารณาจากบัญชีเจ้าของโพสต์ ภาพประกอบข่าว และอาจจะมีอคติหรือมุ่งโจมตี และตอบสนองโดย “ไม่ส่งต่อ” รองลงมาคือ “ตรวจสอบว่าจริงหรือไม่”

Article Details

ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

กรุณา จีนถนอม. (2551). การรับรู้ความสำคัญของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์สุขภาพ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย, คณะนิเทศศาสตร์.

ฌาธร มารศรี. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลให้บุคคลเชื่อ หรือแชร์บทความเท็จบนสื่อสังคม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี.

ณัฐนันท์ อิทธิยาภรณ์. (2562). ผลกระทบของข่าวปลอม แนวทางการรับมือของผู้บริโภคสื่อ. สำนักข่าวอิศรา. วันที่เข้าถึงข้อมูล 10 มิถุนายน 2563 แหล่งที่มา https://www.isranews.org/isranews-article/78298-fake-78298.html

พนม คลี่ฉายา. (2559). การใช้งาน ความเสี่ยง การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล และแนวทางการสอนเพื่อการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาในประเทศไทย. โครงการวิจัยระยะที่ 1. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

พาณิชย์ สดสี. (2562). แนวทางการป้องกันและมาตรการควบคุมการเผยแพร่ข่าวเท็จในเฟซบุ๊ก. รัฏฐาภิรักษ์วารสารราย, 61(3), 40-52.

พีรพล อนุตรโสตถิ์, และเจษฎา ศาลาทอง. (ม.ป.ป.). FACT-CHECK in ACTION คู่มือภาคปฏิบัติ นักตรวจสอบข้อเท็จจริง. เอกสารประกอบงานสัมมนาเรื่อง Trusted Media Thailand:

มานะ ตรีรยาภิวัฒน์. (2561) "หยุดคิด เช็คต้นตอ" หนทางยุติ "ข่าวปลอม" ที่กำลังเป็นปัญหาโลก. วันที่เข้าถึงข้อมูล 10 มิถุนายน 2563 แหล่งที่มา https://www.posttoday.com/social/general/543708

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. (2562). โครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาข่าวปลอม (Fake News). ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์, สถาบันวิจัยและพัฒนา, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.

วิริยาภรณ์ ทองสุข. (2559). การวิเคราะห์การนำเสนอข่าวเชิงคลิกเบทของเว็บไซต์. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน.

สฤณี อาชวานันทกุล. (2561). วิธีจัดการกับ “ข่าวปลอม” : โค้ดคอมพิวเตอร์กับมาตรการทางสังคม. วันที่เข้าถึงข้อมูล 14 มิถุนายน 2563 แหล่งที่มา https://thaipublica.org/2016/12/fake-news-code-and-norms/

สุวัฒน์ เอมสัมฤทธิ์. (2561). การแสดงความเห็นด้วยอคติผ่านข่าวปลอมผ่านสื่อสังคมออนไลน์:กรณีศึกษาการเลือกตั้งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2562. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี.

สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน. (ม.ป.ป). รู้เท่าทันข่าว News Literacy. สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). ยุทธ์ศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐). สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ.

สำนักข่าวอิศรา. (2562). การตรวจสอบข่าวปลอม. วันที่เข้าถึงข้อมูล 12 มิถุนายน 2563 แหล่งที่มา https://www.isranews.org/isranews-article/75870-fakenews.html

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) (2562). Fake News ลวงให้เชื่อ หลอกให้แชร์. วันที่เข้าถึงข้อมูล 10 มิถุนายน 2563 แหล่งที่มา https://www.etda.or.th/content/living-in-the-fake-news-era.html

เสริมศิริ ภูศรี. (2548). ทัศนะต่อความน่าเชื่อถือของข่าวสารที่ส่งมาทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์.(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน

เอกพล เธียรถาวร. (2560). ปัจจัยพยากรณ์ความน่าเชื่อถือของข่าวในสื่อสังคมออนไลน์. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

Amazeen, M. A. (2017). Journalistic interventions: The structural factors affecting the global emergence of fact-checking. Journalism, 1–17.

Barthel, M., Mitchell, A., & Holcomb, J. (2016). Many Americans Believe Fake News Is Sowing Confusion. Pew Research Center.

Mena, P. (2018). Fact-checking and Facebook users’ engagement: Debunking fake news and verifying Trump’s claims. Paper presented at the annual meeting of the AEJMC, Renaissance Washington, DC Downtown Hotel, 9th Street, Washington, DC.

Nielsen, R. K., & Graves, L. (2017). “News you don’t you believe”: Audience perspectives on fake news. Retrieved June 10, 2020, from https://reutersinstitute.politics.ox.ac.uk/sites/default/files/201710/Nielsen%26Graves_factsheet_1710v3_FINAL_download.pdf

Parikh, S. B., & Atrey, P. K. (2018). Media-Rich Fake News Detection: A Survey. Retrieved June 10, 2020, From https://www.albany.edu/~sp191221/publications/Fake_Media_Rich_News_Detection_A_Survey.pdf

Plotnick, L., Hiltz, S. R., Grandhi, S., & Dugdale, J. (2018). Real or Fake? User Behavior and Attitudes Related to Determining the Veracity of Social Media Posts. Retrieved June 13, 2020, From https://arxiv.org/ftp/arxiv/papers/1904/1904.03989.pdf

Prakash, G., Verma, R. K., Ilavarasan, P. V., & Kar, A. K. (2019). Authenticating Fake News: An Empirical Study in India. In Y. Dwivedi et al. (Eds.). IFIP International Federation for Information Processing. (pp. 339–350) Published by Springer Nature Switzerland AG.

Reuter, C., Hartwig, K., Kirchner, J., & Schlegel, N. (2019). Fake News Perception in Germany: A Representative Study of People’s Attitudes and Approaches to Counteract Disinformation. 14th International Conference on Wirtschaftsinformatik, Siegen, Germany.

Shin, J., & Thorson, K. (2017). Partisan Selective Sharing: The Biased Diffusion of Fact-Checking Messages on Social Media. Journal of Communication, 67, 233–255

Tandoc, E. C., Jr. et al. (2018). Audiences’ acts of authentication in the age of fake news: A conceptual framework. new media & society, 20(8), 2745–2763.

Tandoc, E. C., Jr. Lim, D., & Ling, R. (2019). Diffusion of disinformation: How social media users respond to fake news and why. Journalism, 1–18.DOI: 10.1177/1464884919868325

Theethavat Janevatchararuk. (2019). Fake News Situations: Comparison,Factors Analysis, and Model. J. of Soc Sci & Hum, 45(1), 119-140.

Wardle. C., & Derakhshan, H. (2017). Information disorder: Toward an interdisciplinary framework for research and policy making. Strasbourg Cedex: Council of Europe.

Wardle. C., & Derakhshan, H. (2018). Thinking about ‘Information disorder’: Formats of misinformation, disinformation, and mal-information. Journalism, ‘Fake news’ & Disinformation. France. UNESCO.

Zhao, Z., et al. (2019). Fake news propagates differently from real news even at early stages of spreading. Retrieved from https://arxiv.org/pdf/1803.03443.pdf.