สิทธิส่วนบุคคลออนไลน์ในประเทศไทย: ความตระหนักรู้เชิงกลยุทธ์/สาธารณะ
Main Article Content
บทคัดย่อ
ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และกระแสของการหลอมรวม นโยบายข้ามชาติ นําไปสู่การอภิปรายในประเด็นที่ว่า สิทธิส่วนบุคคล ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ และประเด็นที่ ว่าระบบการอภิบาลอินเทอร์เน็ตโลก (Global Internet Governance) นั้น ควรจะมีการให้ความสําคัญกับเรื่องสิทธิส่วนบุคคลมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนั้นประเด็นด้านความจําเป็นของการมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ ส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคล เป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้มีความจําเป็น ที่จะต้องทบทวนถึงสถานการณ์เรื่องสิทธิส่วนบุคคลในประเทศไทย ความตระหนักของสาธารณะต่อประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ก็เป็น อีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้กระบวนการตราและบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการกําหนดนโยบายสาธารณะในเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ครอบคลุม และตรงกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสังคม
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะ ของการรับรู้ต่อประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของสังคมไทยทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และความสัมพันธ์ ระหว่างการรับรู้ต่อประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลกับปัจจัยด้านลักษณะทางประชากร สถานภาพทางเศรษฐกิจ ทัศนคติทางวัฒนธรรม และพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต 2) เพื่อศึกษาการรับรู้และความตระหนักถึงสิทธิส่วนบุคคล ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในโปรแกรมสําเร็จรูปออนไลน์ต่างๆ และ 3) เพื่อศึกษาการรับรู้ของสมาชิกองค์กรภาคประชา สังคมในประเทศไทยต่อความเป็นส่วนตัวหรือสิทธิ ส่วนบุคคลออนไลน์
ผลการวิจัยพบว่า ในบริบทออนไลน์ ตัวแปร เพศ อายุ ระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์กับระดับการรับรู้และความตระหนักต่อสิทธิส่วนบุคคลออนไลน์ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ นอกจากนั้น ระยะเวลาการใช้อินเทอร์เน็ต ความถี่ในการใช้อินเทอร์เน็ต และประสบการณ์การใช้ อินเทอร์เน็ต มีอิทธิพลต่อการรับรู้และความตระหนัก ต่อสิทธิส่วนบุคคลออนไลน์
ในบริบทออฟไลน์ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีการรับรู้ต่อสิทธิส่วนบุคคลในระดับสูง ภายใต้ บริบทต่อไปนี้ ได้แก่ การลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง การเข้าตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ และสิทธิส่วนบุคคล ทางกายภาพ (สิทธิที่จะอยู่โดยลําพัง) กลุ่มตัวอย่างมีการ รับรู้ต่อสิทธิส่วนบุคคลในระดับต่ํา ภายใต้บริบทต่อไปนี้ ได้แก่ การเก็บข้อมูลส่วนตัวและการแลกเปลี่ยนข้อมูล ของลูกค้าโดยองค์กรธุรกิจ การสอดส่องจากภาครัฐ เช่น การใช้บัตรประชาชนแบบ smart card
ผู้นําองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมดมีทัศนะตรงกันว่า เมื่อโลกได้ก้าวเข้าสู่สังคมสารสนเทศ (information Society) พร้อมกับการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต ทําให้การ รักษาสิทธิส่วนบุคคลก็เริ่มที่จะเป็นไปได้ยากมากขึ้นหรือ เป็นไปไม่ได้ การแบ่งเขตแดนระหว่างเรื่องสาธารณะและ เรื่องส่วนตัวก็ทําได้ยากมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การพัฒนาของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งมีพลังในการ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของวัฒนธรรมในการแลกเปลี่ยน ข้อมูลภายในสังคม เมื่อข้อมูลข่าวสารได้ถูกตีพิมพ์ลงในโลกออนไลน์ ผู้ผลิตเนื้อหานั้นก็ได้สูญเสียอํานาจที่จะ ควบคุมเนื้อหานั้นอีกต่อไป
Online Privacy in Thailand: Public and strategic awareness
Article Details
เอกสารอ้างอิง
นิธิมา คณานิธินันท์. (2544). ความตระหนักรู้ถึงสิทธิส่วนบุคคลในการสื่อสารอินเทอร์เน็ตประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวารสารศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภาษาอังกฤษ
Bennett, C. J. (2008). The Privacy Advocates: Resisting the Spread of Surveillance. Cambridge: MIT University Press.
Butler, E., McCann, E., & Thomas, J. (2011). Privacy setting awareness on Facebook and its effect on user-posted content. Human Communication, 14(1), 39-55.
Decew, J. (1997). In pursuit of privacy: Law, ethics and the rise of technology. Ithaca: Cornell
University Press. Fogel, J., & Nehmad, E. (2009). Internet social network communities: Risk taking, trust, and privacyconcerns. Computers in Human Behavior, 25, 153-160.
Grubbs-Hoy, M., & Milne, G. (2010). Gender differences in privacy-related measures for young adult Facebook users. Journal of Interactive Marketing, 10(2), 28-45.
Kurt, M. (2010). Determination of internet privacy behaviours of students. Procedia Social and Behavioral Sciences, 9, 1244-1250.
Milne, R., Rohm, J., & Bahl, S. (2004). Consumer's protection of online privacy and identity. The Journal of Consumer Affairs, 38(2), 217-232.
Nosko, A., Wood, E., Kenney, M., Archer, K., Pasquale, D. D., Molema, S., & Zivcakova, L. (2012). Examining priming and gender as a means to reduce risk in a social networking context: Can stories change disclosure and privacy setting use when personal profiles are constructed? Computers in Human Behavior, 28(2067-2074).
Paine, C., Reips, U.-D., Stieger, S., Joinson, A., & Buchanan, T. (2007). Internet user's perception of “privacy concerns' and 'privacy actions'. International Journal of Human-Computer Studies, 65, 526-536.
Ramasoota, P. (1998). Information technology and bureaucratic surveillance: a case study of the population information network (PIN) in Thailand. Information Technology for Development, 8(1), 51-64.
Ramasoota, P. (2000). State surveillance, privacy and social control in Thailand (1358-1997). Unpublished PhD Dissertation, Simon Fraser University.
Warren, S., & Brandeis, D. (1980). The right to privacy. Harvard Law Review, 4(5).
Westin, A. (1967). Privacy and freedom. New York: Atheneum.