การพัฒนาการสื่อสารเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่

Main Article Content

ญาธินี ตันติวิวัฒน์
พิรงรอง รามสูต

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีจุดประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาบทบาทและแนวทางปฏิบัติของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารแจ้งเตือนภัยสึนามิผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2) เพื่อศึกษารูปแบบการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่และความคาดหวังของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิชายฝั่งทะเลอันดามันที่มีต่อการสื่อสารแจ้งเตือนภัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคาดหวังที่เกิดขึ้น และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการสื่อสารแจ้งเตือนภัยสึนามิผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย
วิธีการวิจัยประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร การเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับประชาชนในพื้ที่เสี่ยงภัยสึนามิรวม 400 คนในจังหวัดพังงา กระบี่ ภูเก็ตและระนอง และการสัมภาษณ์เชิงลึกตัวแทนประชาชน 15 คน และตัวแทนผู้เชี่ยวชาญ 5 คน
ผลการศึกษาพบว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) มีบทบาทเป็นผู้ส่งสารหลักในกระบวนการสื่อสาร และมีแนวทางการปฏิบัติตอบสนองต่อสถานการณ์ภัยพิบัติแบบดั้งเดิม (Traditional Model) ใช้ข้อความสั้นเป็นช่องทางการสื่อสารเจาะจงไปยังภาครัฐส่วนกลาง-ภูมิภาค-ท้องถิ่น ธุรกิจโรงแรมในพื้นที่และสื่อมวลชนโดยมีผู้นำในภาคส่วนท้องถิ่นกระจายข้อมูลต่อไปยังประชาชนผู้เสี่ยงภัย สอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีการสื่อสาร 2 จังหวะ โดยมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นผู้เชื่อมโยงและถ่ายทอดสัญญาณการสื่อสาร และบางส่วนมีบทบาทเสริมเป็นผู้เฝ้าประตูข่าวสารที่กระจายข้อความสั้นของผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายไปยังผู้เสี่ยงภัย
ผลการสำรวจด้วยแบบสอบถามจากผู้เสี่ยงภัยจำนวน 400 คน ในพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน พบว่า จุดแข็งและโอกาสของการพัฒนาให้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารเตือนภัยสึนามิ คือ ผู้เสี่ยงภัยมีการใช้งานสมาร์ทโฟนมากที่สุด (ร้อยละ 58) มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตค่อนข้างสูง (ร้อยละ 64.50) เกือบทั้งหมดมีการพกพาโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตัวคลอดและมีการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงขึ้นในช่วงเสี่ยงภัย โดยผู้เสี่ยงภัยคาดหวังให้มีการเตือนภัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะในรูปแบบข้อความสั้น ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทโทรคมนาคมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่กำหนดภาระหน้าที่ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสื่อสารเตือนภัยเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ผู้วิจัยเสนอ 3 แนวทางในการพัฒนาการการสื่อสารเตือนภัยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังนี้ 1) การผสานความร่วมมือระหว่างรัฐ ผู้ให้บริการเครือข่ายและประชาชน เพื่อให้ผู้เสี่ยงภัยมีสิทธิได้รับการแจ้งเตือนภัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างข้อความสั้นทันทีและทั่วถึง 2) การบูรณาการการใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่เพื่อใช้งานระบบออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่เสริมกับข้อความสั้น รองรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีมากขึ้น และ 3) การใช้ทักษะและความรู้เข้าขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเข้าใจต่อภัยพิบัติ ควบคู่กับการสร้างความรู้เท่าทันสื่อ เพื่อลดปัญหาการแพร่กระจายข่าวลือในช่วงภัยพิบัติ

Article Details

ประเภทบทความ
Articles
ประวัติผู้แต่ง

ญาธินี ตันติวิวัฒน์, คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ญาธินี ตันติวิวัฒน์ (นศ.ม. นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556) 

พิรงรอง รามสูต, คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิรงรอง รามสูต (Ph. D. (Communication Studies), Simon Fraser University, 2000) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย
กรมทรัพยากรธรณี. (2550). การศึกษาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ บริเวณแหลมปะการัง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา. เข้าถึงเมื่อ 15 มีนาคม 2557, แหล่งที่มา http://library.dmr.go.th/library/DMR_Technical_Reports/2551/17435.pdf
กรุงเทพธุรกิจ. (2555). ค่ายมือถือแจงเตรียมพร้อมรับมือสัญญาณมือถือล่มเหตุสึนามิ. เข้าถึงเมื่อ 12 กรกฎาคม 2555, แหล่งที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20120411/446428/3-ค่ายมือถือแจงเตรียมพร้อมรับมือสัญญาณมือถือล่มเหตุสึนามิ.
กสทช. (2556). รายงานผลโรงการสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการโทรคมนาคมของประชากรไทย พ.ศ. 2555-2556. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ.
กาญจนา แก้วเทพ. (2552). สื่อสารมวลชน: ทฤษฎีการสื่อสารและแนวทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.
กาญจนา มีศิลปะวิกกัย. (2553). ความรู้เบื้องต้นและทฤษฎีการสื่อสาร Introduction and Theory of Communication พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
กุลพิธาล์ กองชาวนา. (2552). ความคาดหวังและความพึงพอใจของประชาชนในกรุงเทพมหานครที่มีต่อบทบาทการสื่อสารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชื่นนภา กัลป์ยาพิเชฏฐ์. (2549). การประเมินประสิทธิภาพผลการประชาสัมพันธ์เรื่องระบบเตือนภัยสึนามิ.วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไทยโพสต์. (2556). ประเทศไทยในสถานการณ์ธรรมชาติพิบัติ. เข้าถึงเมื่อ 9 มกราคม 2557, แหล่งที่มา http:www.thaipost.net/x-cite/311213/84049
ปรมะ สตะเวทิน. (2546). การสื่อสารมวลชน: กระบวนการและทฤษฎี. พิมพ์ครั้งที่ 3: กรุงเทพฯ: ห้างหุ้มส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
ปราณิดา ศยามานนท์. (2556). เจาะกระแสไอที…แนวโน้มการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน. เข้าถึงเมื่อ 31 มกราคม 2557, แหล่งที่มา http://www.scbeic.com/THA/document/topic_krungtep_smartphone/2556
ผู้จัดการออนไลน์. (2551). สถิติผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 12 มกราคม 2556, แหล่งที่มา http://www.veedvil.com/news/thailand-mobile-in-review

ภาษาอังกฤษ
Anderson, P. S. (2006). British Columbia tsunami warning methods “A Toolkit for community Planning”. B. C. Canada: Telematics Research Lab.
Choo, C. W., & Nadarajah, I. (2014). Early warning information seeking in the 2009 Victorian Bushfires. Journal of Association for Information Science and Technology, 65(1), 84-97. Doi: 10.1002/asi.22952
Crowe, A. S. (2011). Impact of Social Media on Emergency Management. In M. J. Fagel (Ed.), Principles of Emergency Management Hazard Specific Issues and Immigration Strategies. Boca Raton, FL: CRC Press.
Fitzpateick, C., & Mileti, D. (1994). Public Risk Communication. In R. Dynes & K. Tierney (Eds.), Disasters, Collective Behavior, and Social Organization (pp. 75-83). Newark: University of Delaware Press.
Fraustino, J. D., Liu, B., Jin, Y., Terrorism, N. C. f. t. S. o., Terrorism, R. t., Science, U. S. D. o. H. S., & Directorate, T. (2012). Social Media Use During Disasters: a Review of Knowledge Base and Gaps. National Consortium for the Study for the Study of Terrorism and Responses to Terrorism.
Haddow, G. Bullock, J., & Coppola, D. P. (2010). Introduction to Emergency Management: Elsevier Science.
Haddow, G. D., & Haddow, K. S. (2009). Disaster Communication in a Changing Media World. Butterworth-Heinemann.
McEntire, D. A. (2006). Wiley Pathways Disaster Response and Recovery. Wiley.
Mileti, D. S. (1995). FACTORS RELATED TO FLOOD WARNING RESPONSE. Perugia: U.S. – Italy Research Workshop on the Hydrometeorology, Impacts, and Management of Extreme Floods
Mileti, D. S. (n.d.). Public response to disaster warnings. Retrieved 30 December 2012 from http://swfound.org/media/82620/PUBLIC%20RESPONSE%20TO%20WARNINGS%20-%20Dennis%20s. %20Mileti.pdf
Mileti, D. S., & Sorensen, J. H. (1990). Communication of Emergency public warnings: A Social Science Perspective and State-of-the-Art-Assessment. 3-8-3-11.
Mileti, D. S., & Sutton, J. (2009). Social media & Public disaster warnings. University of Colorado at Boulder.
Nicolet, R. (1999). Facing the Unforeseeable Lessons from the Ice Strom of’ 98 (pp.124). Quebec.
Sellnow, T. L., & Seeger, M. W. (2013). Theorizing Crisis Communication. Wiley.
Souza, F., & Kushchu, I. (n.d.). Mobile disaster Management system application-current overview and future potential. Retrieved 31 July 2012 from: http://www.mgovernment.org/resources/euromgov2005/PDF/47_R134FS.pdf
Sung, S. J. (2011). How can we use mobile apps for disaster communication in Taiwan: Problems and possible practice. Paper presented at the 8th International Telecommunication Society (ITS) Asia-Pacific Regional Conferences, Taiwan.