เว็บไซต์ยูทูบ (ภาษาไทย) กับการสื่อสารความเกลียดชัง

Main Article Content

มัทนา นันตา
พิรงรอง รามสูต

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะของเว็บไซต์ยูทูบในฐานะสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลต่อการผลิตและการแพร่กระจายการสื่อสารความเกลียดชังในบริบทออนไลน์ 2) เพื่อสำรวจสถานการณ์การสื่อสารความเกลียดชังบนฐานความเกลียดชังเรื่องการเมืองและศาสนา/ลัทธิความเชื่อในยูทูบ 3) เพื่อทำความเข้าใจทัศนะของผู้เข้าข่ายเป็นกลุ่มเป้าหมายของการสื่อสารความเกลียดชังบนฐานความเกลียดชังเรื่องการเมืองและศาสนา/ลัทธิความเชื่อในเว็บไซต์ยูทูบและ 4) เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ที่มีส่วนบ่มเพาะการสื่อสารคตวามเกลียดชังบนฐานความเกลียดชังเรื่องการเมืองและศาสนา/ลัทธิความเชื่อในสังคมไทย
ผลการวิจัยพบว่า การผลิตและการแพร่กระจายข้อมูลบนเว็บไซต์สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ประเด็นการโจมตีหลักของฐานความเกลียดชังเรื่องการเมืองสามารถแบ่งได้เป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ 1) กลุ่มคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยและระบบทักษิณ ประเด็นที่ใช้จุดประกายความเกลียดชังคือเรื่องความไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ดูถูกเหยียดหยามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงโง่ และเป็นกลุ่มที่ใช้ความรุงแรงในการชุมนุม และ 2) กลุ่มคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงและสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีประเด็นของการถูกโจมตีว่าคลั่งเจ้า ฆาตกรรมประชาชน และมีการกระทำสองมาตรฐานเอาเปรียบประชาชน ในส่วนของฐานความเกลียดชังเรื่องศาสนา/ลัทธิความเชื่อ พบประเด็นการโจมตีศาสดาและหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ดูถูกเหยียดหยามวิถีปฏิบัติของชาวมุสลิม และเหมารวมบนฐานอคติว่าชาวมุสลืมเป็นกลุ่มบุคคลที่นิยมการใช้ความรุนแรง การวิเคราะห์เนื้อหาในเว็บไซต์ยูทูบ หรือแม้กระทั่งสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ โดยตัวเองไม่ได้มีพลังมากเพียงพอที่จะทำให้ผู้ที่รับชมเนื้อหาที่เป็นการสื่อสารความเกลียดชังลุกขึ้นมาใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มเป้าหมายที่ต้องถูกโจมตี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความน่าเชื่อถือของสื่ออินเทอร์เน็ตและการเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ตของสังคมไทย นอกจากนี้ สื่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นสื่อประเภทเดียวที่คนในสังคมเปิดรับ อย่างไรก็ตาม จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ การเมือง ศาสนา สันติวิธี และสื่อใหม่ พบว่า บริบททางสังคมและประวัติศาสตร์มีส่วนบ่มเพาะการสื่อสารความเกลียดชัง ทั้งนี้ ในส่วนของความเกลียดชังเรื่องการเมือง มีบริบทของความคิดกระแสหลักเกี่ยวกับ
1. ความเป็นไทย (Mainstream Thought on “Thainess”)
2. ความขัดแย้งเรื่องชนชั้นในสังคมไทยเป็นตัวกระตุ้นความเกลียดชัง ขณะที่เรื่องศาสนามีปัจจัยด้านบริบท ได้แก่
     1) ความเข้าใจแบบเหมารวมเกี่ยวกับศาสนาอิสลามตั้งแต่อดีต
     2) การสร้างภาพมุสลิมในฐานะศัตรูของโลกตะวันตก
     3) กระแสความหวาดกลัวศาสนาอิสลาม (Islamo phobia) ในโลกตะวันตก
     4) สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
     5) ความคิดกระแสหลักเกี่ยวกับความเป็นไทย (Mainstream Thought on “Thainess”) เป็นปัจจัยเร่งการสร้างความเกลียดชัง

Article Details

ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย
กรือเซะ-ตากใบ…เกี่ยวอะไรด้วย. [ออนไลน์]. กรุงเทพธุรกิจ (25 พฤศจิกายน 2556) แหล่งที่มา http://bit.ly/liTj2nQ [ 10 สิงหาคม 2557]
กษมาช นีรปัทมะ, Happy Birthday…Youtube. กรุงเทพธุรกิจ (28 มีนาคม 2554). แหล่งที่มา http://bit.ly/lkPlIE2 [ 10 สิงหาคม 2557]
กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. (2555). คู่มือสื่อใหม่ศึกษา. โครงการเมธีวิจัยอาวุโส, ฝ่ายวิชาการ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.)
กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. (2555). สื่อเก่า-สื่อใหม่: สัญญะ, อัตลักษณ์, อุดมการณ์. โครงการเมธีวิจัยอาวุโส, ฝ่ายวิชาการ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.)
กานต์ ทัศนภักดิ์ (บรรณาธิการ). (2555). บันทึกอภิปรายในหัวข้อ: “พรมแดนของ free speech และ hate speech ในการแสดงความเห็นทางการเมือง” สื่อใหม่กับความเคลื่อนไหวทางการเมือง. (pp.114-139). เชียงใหม่. มูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์.
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ. (2555). รายงานฉบับสมบูรณ์คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กรกฎาคม 2553- กรกฎาคม 2555. บทสรุปผู้บริหาร: คณะกรรมการ.
โครงการกลไกสื่อมวลชนศึกษาเพื่อสุขภาวะ มูลนิธิสื่อมวลชนศึกษา. (2553). ปรากฏการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในเครือข่ายสังคมออนไลน์. วารสารศาสตร์, 4(1), 3-30.
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ (บรรณาธิการ). (2553). ความรุนแรงซ่อนหา/หาสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: มติชน.
ชาญชัย ชัยสุขโกศล. (2554). Hate speech และข้อมูลที่เป็นอันตราย: ทางเลือกและวิธีการตอบโต้ทางการเมือง.
___. (2556). เมื่อใดที่การแสดงความเกลียดชังกลายเป็นการใช้ความรุนแรง? Paper presented at the สัมมนาเพื่อนำเสนอร่างรายงานการวิจัยโรงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว. ช่วงที่ 2 ปีที่ 3 สันติวิธีและความรุนแรงในสังคมไทย: ความรู้ ความลับ และความทรงจำ. คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ดาริน อินทร์เหมือน, จุฬารัตน์ ดำรงวิถีธรรม, และธนาพล อิ๋วสกุล. (2547). (กองบรรณาธิการวารสารฟ้าเดียวกัน). มายาคติ มลายูมุสลิมในสังคมไทย. ฟ้าเดียวกัน, 2(3), 84-105.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2555). โทสวาท, มติชนสุดสัปดาห์, p.25
ประจักษ์ ก้องกีรติ. (2551). นิทานสอนใจว่าด้วยความโง่ จน เจ็บ ของผู้เลือกตั้งชนบท : มายาคติและอคติของนักรัฐศาสตร์ไทย. ฟ้าเดียวกัน, 6(4), 140-155.
___. (2553). นิทานแห่งชาติเรื่อง “รักแห่งสยาม” “พ่อขุนอุปถัมภ์” และ “ชนบทไร้เดียงสา”. ใน ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา (บรรณาธิการ), Red Why: แดงทำไม (pp. 128-141).
Innocence of Muslims: 13 นาที แห่งความเกลียดชัง (Hate speech): มีหรือไม่มี? [ออนไลน์]. มติชนออนไลน์ (11 มิถุนายน 2556) แหล่งที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370952572&grpid=03&catid=&subcatis [10 สิงหาคม 2557]
พิรงรอง รามสูต. (2556). การกำกับดูแลเนื้อหาอินเทอร์เน็ต. กรุงเทพมหานคร ศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มูลนิธิฟรีดริช เอแบร์ท. (2557). หลากเลื่อนเส้นแดนสมมติ…หลากหลายเพื่อสันติสุขที่ยั่งยืน, แหล่งที่มา: http://www.fes-thailand.prg/wb/media/Debate%20Show/Southern%20Governance_final.pdf [10 สิงหาคม 2557]
ยูทูบ. (2556). คำพูดแสดงความเกลียดชัง. แหล่งที่มา http://support.google.com/Youtube/answer/2801939?hl=th [10 สิงหาคม 2557]
ยูทูบ. (2557). สถิติ, http://bit.ly/lgUtkgk [10 สิงหาคม 2557]
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ). 9 ปีความรุนแรงภาคใต้ ถกหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์. ประชาไท (29 มิถุนายน 2555) แหล่งที่มา: http://prachatai.com/journal /2012/06/41326 [10 สิงหาคม 2557]
สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา (สสมส.) จากกรือเซะถึงตากใบ ไฟใต้จะดับลงอย่างไร ? [ออนไลน์]. Htttp://bit.ly/1nloZs6 [10 สิงหาคม 2557]
สายชลสัตยานุรักษ์. (2548). การสร้าง “ความเป็นไทย” กระแสหลักและความจริงที่ “ความเป็นไทย” สร้าง. ฟ้าเดียวกัน, 3(4), 40-67.
___.(2550). คึกฤทธิ์กับประดิษฐกรรม “ความเป็นไทย”. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน.
สารคดี. (2551). สัมภาษณ์ ดร. ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ “การต่อสู้เวลานี้กำลังเพาะเมล็ดพันธุ์ความรุนแรงขึ้นในสังคมแม้ต่างฝ่ายต่างอ้างวิธีสันติ”. [ออนไลน์]. สารคดี. แหล่งที่มา: http://www.sarakadee.com/2008/12/16/chaiwat-sataanant/ [10 สิงหาคม 2557]
อภิญญา เฟื่องฟูสกุล. (2546). อัตลักษณ์. คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ, สาขาสังคมวิทยา, สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
อมารตยา เซ็น. (2555). อัตลักษณ์และความรุนแรง: ภาพลวงของชะตาลิขิต. แปลโดย ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์. สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์. (2557). ความเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการจัดการทรัพยากรท้องถิ่น [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: htttp://bit.ly/1qWnOPT [10 สิงหาคม 2557]
อารี จำปากลาย, ธีรนงค์ สกุลศรี,และอาซิส ประสิทธิหิมะ (เข้าถึงเมื่อ, 2556). มุสลิมในประเทศไทย: ชายขอบหรือเพียงแค่แตกต่าง? [ออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www2.ipsr.mahidol.ac.th/ConferenceVIII/Download/Article_Files/4-MuslimsThailand-Aree.pdf [10 สิงหาคม 2557]

ภาษาอังกฤษ
Clarke, J. (2012). Google, Youtube Refuse White House Request To Pull Anti-Islamic Film [Online]. Forbes. Available from: http://onforb.es/1gtRRgy [10 August 2014]
Cortese, A.J.P. (2006). Opposing Hate Speech. Westport, CT: Praege Publishers.
Dozier, R.W. (2003). Why We Hate. New York: McGraw-Hill.
Fagerjord, A. (2010). After Convergence: Youtube and Remix Culture. In: J. Hunsinger, L. Klastrup, and M. Allen (eds) International Handbook of Internet Research. New York: Springer.
Ferguson, C.J. (2009). Violent Crime: Clinical and Social Implication. Thousand Oaks, CA: Sage Publications.
Haupt, C.E. (2005). Regulating Hate Speech-Damned if you do and damned if you don’t: Lesson Learned from comparing the German and U.S. approaches [Online]. http://bit.ly/1sYPhnZ [10 August 2014]
Kajn, Robert A. (2006). Cross-Burning, Holocaust Denial, and the Development of Hate Speech Law in the United States and Germany. Merey Law Review, 83(163).
Mediasmarts. (2012). Online Hate – An Introduction. Available from: http://madiasmarts.ca/online-hate/online-hate-introduction [10 August 2014]