การศึกษาการใช้สื่อเพื่อเปิดรับข้อมูลข่าวสารและการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของประชาชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่อง “การศึกษาการใช้สื่อเพื่อเปิดรับข้อมูลข่าวสารและการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของประชาชน” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา1) สื่อที่ทุกกลุ่มวัยเปิดรับข้อมูลข่าวสารความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 2) ประเภทของข้อมูลข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ทุกกลุ่มวัยเปิดรับ และ 3) การให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพด้านต่างๆ ของประชาชนทุกกลุ่มวัยโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ และวิธีวิจัยเชิงสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนทั่วไป5 กลุ่มวัย ได้แก่ กลุ่มวัยแม่และเด็ก กลุ่มวัยเรียน กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มวัยผู้สูงอายุ จำนวน 2,539 คน จาก 5 พื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม เชียงใหม่ นครราชสีมา และสงขลา
ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนกลุ่มแม่และเด็ก วัยเรียน วัยรุ่น และวัยทำงาน มีการเปิดรับข้อมูลข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ตมากที่สุด รองลงมาคือ สื่อโทรทัศน์ ในขณะที่ประชาชนผู้สูงอายุเปิดรับสื่อโทรทัศน์มากที่สุด รองลงมาคือ สื่อบุคคลประชาชนทุกกลุ่มวัยให้ความสนใจและเปิดรับข้อมูลข่าวสารและความรู้เรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีการเปิดรับเรื่องเพศศึกษาและทักษะชีวิต น้อยที่สุดสรุปข้อค้นจากงานวิจัยนี้ พบว่า ประชาชนทุกกลุ่มวัยให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพในเรื่องอาหารมากที่สุด โดยที่ในกลุ่มวัยเรียน วัยรุ่น และวัยทำงาน ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพช่องปาก กลุ่มแม่และเด็กให้ความสำคัญกับเรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม และกลุ่มผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค, สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. (2554). การประเมินผลการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสำรวจพฤติกรรมประชาชน ปี 2554.สืบค้นจาก http://goo.gl/gfWP3I.
กรมควบคุมโรค,สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. (2557). การสำรวจการรับทราบข้อมูลข่าวสารความรู้และพฤติกรรมของคนไทยและภาพลักษณ์ของกรมควบคุมโรคปี 2557. สืบค้นจาก http://goo.gl/r4Pcps.
กระทรวงสาธารณสุข, กรมควบคุมโรค. (2557).การสำรวจการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ความรู้ของ
ประชาชนไทย และภาพลักษณ์กรมควบคุมโรค ปี 2557. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
กระทรวงสาธารณสุข, กรมควบคุมโรค. (2558). รายงานการสำรวจการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ความรู้
และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนไทยและความพึงพอใจต่อการสื่อสารความเสี่ยงของกรมควบคุมโรค ประจำปี 2558.นนทบุรี: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
กระทรวงสาธารณสุข, กรมอนามัย (2560). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและ
อนามัยสิ่งแวดล้อม ตามแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564. นนทบุรี: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.
กระทรวงสาธารณสุข, กรมอนามัย. (2553). แผนยุทธศาสตร์กรมอนามัย พ.ศ.2553-2556.นนทบุรี: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.
กาญจนา แก้วเทพ. (2556). สื่อสารมวลชน: ทฤษฎีและแนวทางการศึกษา(พิมพ์ครั้งที่ 4).
กรุงเทพฯ: เอดิสัน เพรส โพรดักส์
จินตนาพัฒนพงศ์ธร, ชัยชนะบุญสุวรรณ, และนฤมลธนเจริญวัชร. (2558). รายงานการศึกษา
พัฒนาการเด็กปฐมวัยไทยปี 2557.สำนักส่งเสริมสุภาพ. นนทบุรี.
ฐานเศรษฐกิจ. (2559, 10 มีนาคม). ความท้าทายของคนหนังสือพิมพ์.ฐานเศรษฐกิจ,น. 138.
ไปรยา ตันติวงศ์. (2541). กลยุทธ์การแข่งขันของนสพ.บางกอกโพสต์และเดอะเนชัน ผ่านการจัดทํานิตยสารแทรก Real Time และ Weekend กับการใช้ประโยชน์และความพึงพอใจของผู้รับสาร(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
รัตติยา อังกุลานนท์. (2559, 17 กุมภาพันธ์). ‘ทีวี-สมาร์ทโฟน’ จอหลักเสพสื่อ. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. สืบค้นจาก http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636947.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม. (2558, 15 มีนาคม). รายงานสุขภาพคนไทย. สืบค้นจาก
http://www.thaihealthreport.com/policybrief.
สราวุฒิบุญสุข,และนงลักษณ์รุ่งทรัพย์สิน. (2558). การศึกษาการตายของมารดาไทยปี 2556.
นนทบุรี: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2555). สถิติสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข 2546-2554.สืบค้นจาก
http://www.thaihealthreport.com/policybrief.
สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า. (2559, 29 มกราคม). อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ไทย “นิตยสาร” ปิดตัว เปลี่ยนเวที – “หนังสือพิมพ์“ ทรงกับทรุด – งานหนังสือยอดขายลด 25%.สืบค้นจาก http://thaipublica.org/2016/01/print-1/.
สํานักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ. (2557). รายงานด้านสถานะสุขภาพโดยรวม. สืบค้นจาก http://hiso.or.th/healthpromotion.
สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. (2556). รายงานภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย. สืบค้นจาก http://ihppthaigov.net/DB/publication/publication_research_show
.php?id=331.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2557). สุขภาพคนไทย 2557: ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง…สู่การปฏิรูปประเทศจากฐานราก (พิมพ์ครั้งที่ 1).นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
อาร์วายทีไนน์. (2556, 25 มกราคม) Health & Wellness 2013มายด์แชร์เผยคนไทยใส่ใจสุขภาพแต่ใช้ชีวิตสวนทาง. สืบค้นจาก http://www.ryt9.com/s/prg/1576148.
อินโฟเควสท์. (2561).แนวโน้มสื่อในประเทศไทยปี 2561.สืบค้นจาก http://blog.infoquest.co.th/iqmedialink/free-download-thailand-media-landscape-2018/.
เอกชัย เพียรศรีวัชรา, และวิมล บ้านพวน. (2557). รายงานการสำรวจสุขภาวะผู้สูงอายุไทยปี 2556
ภายใต้แผนงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ. สืบค้นจาก
http://www.hitap.net/documents/24067.
ภาษาอังกฤษ
CAMI. (2015, July 5). Developing communication strategy - advantages and disadvantages of different types of media.Retrieved from: http://goo.gl/IGdWbN.
Cheyjunya, P. (2016). Structural equation model of Thai’s elderly adoption ofcommunication technology.Journal of Communication Arts Review, 19(2), 85-100.
Katz, E. &Lazarsfeld, P. F. (1955).Personal influence. New York, NY: The Free Press of Glencoe
Klapper, J. T. (1960). The effects of communications.New York, NY: Free Press. Population Communication Services, Johns Hopkins Bloomberg School of Public.
Health/Center for Communication Program. (2015, June 30).A field guide to designing a health communication strategy: A resource for health communication professionals. Retrieved from: http://goo.gl/BCYEzT.
Severin, W. J. & Tankard, J. W. (1992).Communication theories: Origins, methods, and uses in the mass media(3rd ed.) New York, NY: Longman.
Shira, H. F., Daniel, D., Bredley, H. C., Meghan, D., & Charles, H. (2014).Acceptanceand use of health information technology by community-dwelling elders.International Journal of Medical Informatics, 83(2014), 624-635.
Yamane, T. (1973).Statistics: An introductory analysis. New York, NY: Harper & Row.