สุดสะแนน-สาวะถี: การออกแบบกิจกรรมละครฐานชุมชนและสร้างสรรค์การแสดง เพื่อบอกเล่าความทรงจำร่วมของคนอีสาน

Main Article Content

พชญ อัคพราหมณ์

บทคัดย่อ

การดำเนินงานวิจัยเรื่อง สุดสะแนน-สาวะถี: การสร้างสรรค์การแสดงจากทุนวัฒนธรรมเพื่อเชื่อมโยงความทรงจำและคุณค่าชุมชนอีสาน กรณีศึกษา ชุมชนสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หากลวิธีในการออกแบบกิจกรรมละครฐานชุมชนและสร้างสรรค์การแสดงจากแนวคิดเรื่องความจำ    2) เพื่อสร้างพื้นที่ความทรงจำร่วมของกลุ่มผู้มีส่วนร่วมผ่านกระบวนการละครฐานชุมชน 3)เพื่อสร้างสรรค์  การแสดงสมัยใหม่โดยใช้ทุนวัฒนธรรมในชุมชนและนำเสนอสู่สาธารณชน กระบวนการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 1) ปฏิบัติการในพื้นที่ชุมชน เป็นการออกแบบกิจกรรมละครและนำไปใช้ในกระบวนการละครฐานชุมชนในพื้นที่บ้านสาวะถี  2) การพัฒนาผลงานการแสดงเต็มรูปแบบเรื่อง สุดสะแนน และนำเสนอใน Performing Arts Studio คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผลการดำเนินงานวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมละครที่ออกแบบและนำไปใช้ในกระบวนการวิจัย สามารถทำให้ผู้มีส่วนร่วมระลึกความทรงจำที่มีต่อตนเองและชุมชนได้ ทั้งการรับรู้-การสัมผัส ความทรงจำระยะสั้นและความทรงจำระยะยาว สามารถนำเสนอผ่านละครกระบวนการเรื่อง สุดสะแนน-สาวะถี เพื่อบอกเล่าความทรงจำ ประวัติศาสตร์ และสุ้มเสียงที่มีต่อชุมชนสาวะถีไปยังผู้ชมชาวบ้าน  2) ความทรงจำร่วมที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินกิจกรรมละครสามารถนำมาพัฒนาเป็นการแสดงสมัยใหม่เรื่อง สุดสะแนน เพื่อบอกเล่าความคิด มุมมอง และความรู้สึกที่มีต่อชุมชนสาวะถี และมโนทัศน์ของคนอีสานรุ่นใหม่ผ่านการแสดงโดยนักศึกษาการละคร มหาวิทยาลัยขอนแก่น


 

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อัคพราหมณ์ พ. (2020). สุดสะแนน-สาวะถี: การออกแบบกิจกรรมละครฐานชุมชนและสร้างสรรค์การแสดง เพื่อบอกเล่าความทรงจำร่วมของคนอีสาน. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 12(1), 271–313. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/fakku/article/view/240050
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กนกพันธรน์ โลกุตรวงศ์. (2555). การจัดการช่องว่างระหว่างวัยเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 3(2), 132-143.

ฉัตรทิพย์ นาถสุภา. (2557). การเป็นสมัยใหม่กับแนวคิดชุมชน. กรุงเทพฯ: สร้างสรรค์.

ชัยพร วิชชาวุธ. (2520). ความจำมนุษย์. กรุงเทพฯ: ชวนพิมพ์.

ชาญวิทย์ เทียมบุญประเสริฐ. (2528). การวัดความถนัด. กรุงเทพฯ: สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ปิ่นแก้ว เหลืองอร่าม. (2561). วาทะทางทฤษฎีในมานุษยวิทยา. วารสารมานุษยวิทยา, 1(2), 7-70.

พรรัตน์ ดำรุง. (2557). ละครประยุกต์ การใช้ละครเพื่อการพัฒนา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พรรัตน์ ดำรุง. (2562). บทตั้งต้น. ใน พรรัตน์ ดำรุง (บรรณาธิการ). ข้ามศาสตร์ ข้ามเวลา. (หน้า 8-48). กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

พัฒนา กิติอาษา. (2557). สู่วิถีอีสานใหม่. กรุงเทพฯ: วิภาษา.

มาลินี จุฑะรพ. (2539). จิตวิทยาการเรียนการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.

วชิรวัชร งามละม่อม. (2558). ทฤษฎีภาวะทันสมัย (Modernization theory). ค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562, จาก http://learningofpublic.blogspot.com/2015/09/modernization-theory.html

วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี. (2563). ความจำ. ค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ความจำ

วินัย บุญลือ. (2545). ทุนทางวัฒนธรรมและการช่วงชิงอำนาจเชิงสัญลักษณ์ของชุมชนชาวปกาเกอะญอ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสังคม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย เชียงใหม่.

สุภางค์ จันทวานิช. (2555). ทฤษฎีสังคมวิทยา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.