การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและบทบาทของผ้าทอเผ่ายวนเมืองเชียงฮ่อนในยุคจินตนาการใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งจากงานวิจัยเชิงคุณภาพเรื่อง การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและบทบาทของผ้าทอเผ่ายวน สปป.ลาว ในยุคจินตนาการใหม่ ซึ่งเมืองเชียงฮ่อน แขวงไซยะบุลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ในการศึกษา มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาความเป็นมาของผ้าทอเผ่ายวน สปป.ลาว 2. เพื่อศึกษาวัฒนธรรมและบทบาทผ้าทอเผ่ายวน สปป.ลาว ในปัจจุบัน 3. เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมและบทบาทผ้าทอเผ่ายวน สปป.ลาว ในยุคจินตนาการใหม่(NEM : New Economic Mechanism) มีวิธีการวิจัย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ และข้อมูลจากการลงพื้นที่ มาวิเคราะห์ข้อมูล และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้ผลสรุป โดยได้ใช้เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามแบบมีโครงสร้างและแบบไม่มีโครงสร้าง รวมถึงใช้แบบสำรวจและแบบสังเกตร่วมด้วย ซึ่งในการเก็บข้อมูลได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้รู้ (Key Informant) กลุ่มผู้ปฏิบัติ (Casual Information) และกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง (General Informant) โดยผลการวิจัยพบว่า ผ้าทอเผ่ายวนของเมืองเชียงฮ่อน แขวงไซยะบุลี สปป.ลาว เข้ามาพร้อมกับชนเผ่ายวนเมื่อครั้งอพยพจากเมืองเชียงแสน ปัจจุบันผ้าทอยังมีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของเผ่ายวนเมืองเชียงฮ่อนในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะผ้าทอที่เป็นเครื่องนุ่งห่ม แต่มีการประยุกต์และเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม วัฒนธรรมและบทบาทผ้าทอเผ่ายวนในปัจจุบันนี้มีความแตกต่างจากในอดีต นั่นจึงแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยเมื่อรัฐบาล สปป.ลาว ได้มีนโยบายรวมถึงมีการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับใหม่ หรือ ยุคจินตนาการใหม่(NEM : New Economic Mechanism) จึงทำให้สภาพสังคมของ สปป. ลาวเปลี่ยนไป สังคมในระดับชนเผ่ายวนจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้น จึงส่งผลให้วัฒนธรรมและบทบาทของผ้าทอเผ่ายวนเปลี่ยนไปด้วย สามารถเห็นความแตกต่างของวัฒนธรรมและบทบาทของผ้าทอกับวิถีชีวิตของเผ่ายวนอย่างชัดเจนระหว่างอดีตและปัจจุบัน หากมองในมุมของปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมเผ่ายวน อันเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและบทบาทของผ้าทอเผ่ายวนนั้น เกิดจากทั้งปัจจัยภายในคือการยอมรับวัฒนธรรมใหม่ๆตามยุคสมัยของเผ่ายวนเอง และปัจจัยที่มาจากภายนอกคือการพัฒนาสภาพสังคมและเศรษฐกิจในยุคจินตนาการใหม่ของ สปป.ลาว
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
จรัสพิมพ์ วังเย็น. (2554). การออกแบบเครื่องนุ่งห่มเพื่อการพัฒนาสินค้าพื้นเมือง กรณีศึกษา ผ้าจกไทยวน จังหวัดราชบุรี. คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
นิเทศ ตินณะกุล. (2546). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.กรุงเทพฯ.
บุนจัน แก้ววิชา. (2560). สัมภาษณ์ . วันที่ 10 กันยายน 2560
ประชัน รักพงษ์. (2540). การศึกษาวัฒนธรรมพื้นบ้านไทลื้อในภาคเหนือของ สปป.ลาว.มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่:สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ.
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ. (2550). สารานุกรมผ้า เครื่องถักทอ. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์.
สมศักดิ์ ศรีสันติสุข. (2552). การศึกษาสังคมและวัฒนธรรม:แนวคิด วิธีวิทยา และทฤษฎี. พิมพ์ครั้งที่ 2. ขอนแก่น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
____________ (2536). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม:แนวทางการศึกษา วิเคราะห์ และวางแผน. ขอนแก่น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สรัสวดี อ๋องสกุล. (2557). ประวัติศาสตร์ล้านนา.พิมพ์ครั้งที่ 10.กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
สุเนตร โพธิสาร. (2558). ประวัติศาสตร์ลาว. ขอนแก่น: กองทุนผลิตตำราคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Lao Front for National Construction. (2008). The Ethnic Group in Lao P.D.A.Department of Ethnic Affaire.