แนวคิดและการประพันธ์ดนตรีสำหรับกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ของ พิจักษณ์ วีระไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดการประพันธ์เพลงสำหรับกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ ของ
พิจักษณ์ วีระไทย ผลงานเพลงอัลบั้ม จากโลกถึงดวงจันทร์ (Form the earth to the moon) เป็นวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีการสัมภาษณ์ และวิเคราะห์เพลงสรุปตามแนวทางดนตรีวิทยาได้ดังนี้
ด้านแนวคิดแรงบันดาลใจการประพันธ์เพลงสำหรับกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์พบผลวิจัยในสอง ลักษณะ คือ 1) การวางแนวคิดเพื่อสื่อถึงเรื่องราวอารมณ์เพลง ทั้งด้านเทคนิคการบรรเลง 2) การประพันธ์ทั้งเพลงขึ้นมาก่อนตามจินตนาการของผู้ประพันธ์ แล้วจึงกำหนดแนวทางของเพลงภายหลัง
ด้านการวิเคราะห์เพลงเชียงราย พบว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากความประทับใจความงดงามของ ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย แล้วเกิดความประทับใจในธรรมชาติ ตลอดทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีการผสมผสานวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมและวิถีชีวิตแบบใหม่อยู่ด้วยกันจึงเกิดความประทับใจ การสร้างทำนองในช่วงนำ และ ท่อนจบ ที่ใช้เทคนิคกีตาร์ Natural Harmonic และ Slide เข้ามาใช้ในการบรรเลงทำนอง การเคลื่อนทำนองมีการเคลื่อนทำนองไปในแบบตามขั้นและข้ามขั้นที่ไม่เป็นไปตามทฤษฎี ทิศทางการดำเนินทำนองมีทิศทางขึ้น ลง และคงที่ ความสัมพันธ์ของทิศทางการเคลื่อนทำนองสองแนวที่มีการ การเคลื่อนทำนองสองแนวแบบขนาน การเคลื่อนทำนองสองแนวแบบสวนทาง การเคลื่อนทำนองสองแนวแบบเฉียง มีการใช้โน้ตประดับและการเล่นทำนองที่มีคู่ประสาน อัตราจังหวะที่ใช้ ใช้อัตราจังหวะสี่ธรรมดา ในอัตราความเร็ว 125 มีการใช้โน้ตที่เป็นจังหวะขัดอยู่ค่อนข้างเยอะ เพลงอยู่ในบันได G เมเจอร์ และไม่มีการเปลี่ยนบันไดเสียงระหว่างเพลง โครงสร้างคอร์ดเป็นโครงสร้างตามทฤษฎีดนตรีแต่มีบางท่อนที่มีทางเดินคอร์ดไม่เป็นไปตามทฤษฎี คอร์ดที่ใช้จะเป็นคอร์ดพื้นฐาน และคอร์ดในแบบต่าง ๆ คือ Seventh Chords, Extended chords, Added tone chords, Slash chord, Secondary dominant เป็นต้น รูปแบบเพลงที่ใช้รูปแบบสามตอน A B A’ ทางด้านประโยคเพลงมีประโยคถาม – ประโยคตอบ ที่มีหลายรูปแบบ คือ ลักษณะจังหวะที่มีโครงสร้างเหมือนกัน และความยาวเท่า ๆ กัน, ลักษณะที่รูปร่างขึ้นลงทำนองใกล้เคียงกัน และลักษณะที่มีความยาวเท่า ๆ กันและมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มีการใช้เคเดนซ์หรือจุดพักประโยค 3 ลักษณะ คือ เคเดนซ์ปิดแบบสบูรณ์, เคเดนซ์กึ่งปิดและเคเดนซ์ขัด
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2552). พจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์. กรุงเทพฯ : เกศกะรัต.
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2553). สังคีตลักษณ์และการวิเคราะห์. กรุงเทพฯ : เกศกะรัต.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2548). ศัพท์ดนตรีสากล. กรุงเทพฯ : อรุณการพิมพ์.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : นานมีบุคส์พับลิเคชั่นส์.
ลัญฉนะวัต นิมมานรตนกุล. (2551). หลักการประพันธ์เพลง. นนทบุรี : นิมมานรตนกุล.
สุมาลี นิมมานุภาพ. (2543). ดนตรีวิจักษณ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
Arnold, D. (1984). The New Oxford companion to music Volume I. London : Oxford University Press.
Broughton, S. (Eds.). (1991). Chinese musical instrument synopsis. Beijing : Music Research Institute of Chinese academy of Arts.
Randel, D. (1986). The New Havard dictionary of music. Cambridge : Havard University Press.
Rowley, G. (Ed.). (1978). The book of music. Chrischurch : Prentic-Hall.
Sachs, C. (1940). The history of musical instruments. New York : W.W. Norton.
Sadie, S. (Ed.). (1980). New Grove dictionary of music and musicians. London : Macmillan Publishers.