จุเป๊าะ : เล่นเพื่อรัก...วัฒนธรรมการเลือกคู่

Main Article Content

ธนวรรณ เวียงสีมา
จิรวัฒน์ พิระสันต์

บทคัดย่อ

         การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีจุดมุ่งหมายหลักคือ เพื่อศึกษาหาจุดประสงค์ของการเล่นลูกช่วงในช่วงประเพณีปีใหม่ม้ง โดยมีคำถามงานวิจัย ของเล่นเหมาะสมกับเด็ก แล้วทำไมหนุ่มสาวยังมีการละเล่น ผู้วิจัยใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน ทั้งการศึกษาภาคเอกสาร การวิจัยเชิงสำรวจ โดยพบว่าชาวม้งมีประเพณีและวัฒนธรรมตลอดทั้งความเชื่อเป็นของตนเองสืบมาแต่บรรพบุรุษ โดยแสดงผ่านวัฒนธรรมประเพณีต่างเช่น ประเพณีแต่งงาน ประเพณีขึ้นปีใหม่หรือประเพณีฉลองปีใหม่ และประเพณีกินข้าวใหม่ของม้ง ชาวม้งเรียกกันว่า น่อเป๊โจ่วฮ์ (Noj peb caug) แปลตรงตัวได้ว่า “กินสามสิบ” ชาวม้งจะนับช่วงเวลาตามจันทรคติ เริ่มนับตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ ไปจนถึง 30 ค่ำ ซึ่งตามปฏิทินจันทรคติจะแบ่งออกเป็นข้างขึ้น 15 ค่ำ และข้างแรม 15 ค่ำ เมื่อครบ 30 ค่ำ จึงนับเป็น 1 เดือน ดังนั้นในวันสุดท้าย (30 ค่ำ) ของเดือนสุดท้าย (เดือนที่ 12) ของปีถือว่าเป็นวันส่งท้ายปีเก่า พิธีกรรมต้อนรับปีใหม่ซึ่งจัดเป็นพิธีกรรม มีกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนของพิธีกรรมความเชื่อ จะมีแค่ 3 วันเท่านั้น คือวันขึ้น 1-3 ค่ำ เดือน 1 เท่านั้น ซึ่งจะมีพิธีอัวด๊าคัว (dab quas)  ฆ่าไก่เซ่นไหว้บรรพบุรุษ ผีสาง เทวดา จุดตะเกียงไว้ 3 วันนี้ตลอดทั้งวันทั้งคืน พิธีกรรมนี้เพื่อความเป็นสิริมงคงกับคนในบ้านตลอดปีใหม่ 2.ส่วนของกิจกรรมละเล่นและการเฉลิมฉลอง เป็นกิจกรรมภาคสนาม จะมีการร้องรำทำเพลง โยนลูกช่วง เล่นลูกข่าง เป่าแคน ยิงหน้าไม้ เป็นต้น ซึ่งจะจัดตรงกับวันปีใหม่น่อเป๊เจ่วฮ์ ด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำพร้อมกับช่วงทำพิธีกรรม และในวันปีใหม่จัดเป็นงานประเพณีที่ชาวม้ง รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะเป็นการพบปะกันระหว่างกลุ่มญาติมีประเพณีขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโส เป็นวันที่หนุ่มๆ สาวๆ ในหมู่บ้านจะได้เลือกคู่ มีการจัดการแข่งขันกีฬาประเพณีและการละเล่นต่างๆ เช่น ลูกข่าง ลูกช่วง และยังมีการแข่งขันล้อเลื่อนไม้ เป็นกีฬาที่ท้าทายน่าสนใจเป็นอย่างมาก การโยนลูกช่วงหรือประเพณีเกี้ยวสาว โดยใช้วิธีโยนลูกช่วง หรือการเล่นลูกช่วง (ntsum pob) ที่เรียกกันว่า “จุเป๊า” มีลักษณะกลมเหมือนลูกบอลทำด้วยเศษผ้า มีขนาดเล็กพอที่จะถือด้วยมือข้างเดียวได้ การละเล่นลูกช่วง จะแบ่งกลุ่มผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายหญิงกับฝ่ายชายโดยที่ก่อนจะมีการละเล่น ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ที่เอาลูกช่วงไปให้ฝ่ายชาย หรือญาติ ๆ ของฝ่ายหญิงเป็นผู้ที่นำลูกช่วงไปให้ฝ่ายชาย เมื่อตกลงกันได้ก็จะทำการโยนลูกช่วงโดยฝ่ายหญิง และฝ่ายชายแต่ละฝ่ายจะยืนเป็นแถวหน้า กระดานเรียงหนึ่ง หันหน้าเข้าหากันมีระยะห่างกันพอสมควร แล้วโยนลูกช่วงให้กันไปมาและสามารถทำการสนทนา กับคู่ที่โยนได้ ชาวม้งเป็นชนเผ่าที่ยังเคร่งครัดในวัฒนธรรมประเพณี การเกี้ยวพาราสีไม่นิยมทำในบ้านเพราะเป็นการผิดผี การเกี้ยวสาว หรือเลือกคู่จึงจำเป็นต้องผ่านการละเล่น ซึ่งในสังคมยุคนี้ได้จางหายไปนานแล้ว การยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมทำให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าที่ชัดเจน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เวียงสีมา ธ., & พิระสันต์ จ. (2020). จุเป๊าะ : เล่นเพื่อรัก.วัฒนธรรมการเลือกคู่. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 12(1), 101–126. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/fakku/article/view/185634
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

การโยนลูกช่วง. (2556). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559, จาก http://www.khaoyoi-thaisongdam.com/ pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=211&directory=1739&contents=2082

จิรวัฒน์ พิระสันต์. (2559). วัฒนธรรม ภูหินร่องเกล้า ภูทับเบิก เขาค้อ. พิษณุโลก: อาร์พริ้นติ้ง.

ชาวเขาเผ่าต่าง ชาวเผ่าม้ง. (2562). ค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2562, จาก http://www.sawadee.co.th/ thailand/hilltribes/hmong.html

เตรียมให้แก่เทศกาลเล่นโยนลูกช่วงลอดห่วงเวียดนาม-ลาว-จีนปี 2013. (2556). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559, จาก http://vovworld.vn/th-TH/ขาวเดน/เตรยมใหแกเทศกาลเลนโยนลกชวงลอดหวงเวยดนามลาวจนป๒๐๑๓-188714.vov

เทศกาลเล่นโยนลูกช่วงลอดห่วงเวียดนาม-ลาว-จีนปี 2013. (2556). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559, จาก http://vovworld.vn/th-TH/ขาวเดน/เทศกาลเลนโยนลกชวงลอดหวงเวยดนามลาวจนป๒๐๑๓-183144.vov

ธนวรรณ เวียงสีมา. (2558). วัฒนธรรมการเล่น. วารสารวิชาการมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 2(2), 43-52.

ธนวรรณ เวียงสีมา. (2560). บันทึกภาพ เทศกาลปีใหม่ม้ง ในหมู่บ้านวัฒนธรรมชาวเขาบ้านเข็กน้อย ตำบล เข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559 – 6มกราคม พ.ศ. 2560. [ม.ป.ท.: ม.ป.พ.].

นัฐวุฒิ สิงห์กุล และชินวร ฟ้าดิษฐ์. (2548). ภาคผนวก: ทบทวนภูมิปัญญา ท้าทายความรู้. ใน ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์กรมหาชน). ภูมิปัญญาไทย-ภูมิปัญญาเทศ. (หน้า 47–87). กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์กรมหาชน).

ประเพณีโยนลูกช่วงของชนเผ่าไทในเวียดนาม. (2559). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559, จาก http://vovworld.vn/th-TH/วฒนธรรม/ประเพณโยนลกชวงของชนเผาไทในเวยดนาม-412951.vov

ประเพณีและวัฒนธรรมม้ง. (2552). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559,จาก http://www.oocities.org/ hmoobthaib/culture.htm

ประวัติปีใหม่ม้ง. (2559). ค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2559, จาก http://www.hmongseo.com/index.php? topic=28.0

ปีใหม่ม้ง. (2560). ค้นเมื่อ 2 มกราคม 2560, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ม้ง

รายงานผลการศึกษาการมีอยู่ การเปลี่ยนแปลง ปัญหาและความต้องการของชาวตำบลเข็กน้อย. (2558). ค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2559, จาก http://hmongthaiculture.blogspot.com/2015/04/blog-post_30.html?m=1

ลูวิส, พี. และ ลูวิส, อี. (2528). หกเผ่าชาวดอย. (ศิริวรรณ สุขพานิช, ผู้แปล). เชียงใหม่: หัตถกรรมชาวเขา.

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2559). สุขภาพคนไทย 2559: ตายดี วิถีที่เลือกได้. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล.

สยามรัฐออนไลน์ ภูมิภาค. (2562). จ.พะเยางดงามวิถีม้ง“น่อเป๊โจ่ว“ แข่งฟอร์มูล่าดอย โยนลูกช่วง หนุ่ม สาวระรื่นในชุดประจำเผ่าสุดวิจิตร. ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2562, จาก https://siamrath.co.th/n/61858

เสน่ห์น่านวันนี้. (2559). ค้นเมื่อ 3 มกราคม 2559, จาก https://www.facebook.com/CharmNanToday/ posts/943313749038486/

Howe, N., & Strauss, W. (2007). The next 20 years: How customer and workforce attitudes will evolve. Harvard Business Review, 85(7–8), 41–52, 191.

Wikipedia. (2011) Theory of generations. Retrieved December 8, 2017, from https://en.wikipedia.org/wiki/Theory_of_generations