การสร้างแบรนด์และออกแบบโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่มีผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภค
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การสร้างแบรนด์และออกแบบโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่มีผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภค เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างแบรนด์และออกแบบโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ รูปแบบ Banner Advertising และInfographic Video 2) เพื่อประเมินผลการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์และโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และ 3) เพื่อประเมินความสำเร็จของการใช้ประโยชน์จากแบรนด์และโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดยมีกลุ่มตัวอย่างในการประเมินผลการรับรู้ จำนวน 382 คน และมีกลุ่มเป้าหมาย ในการประเมินความสำเร็จของการใช้ประโยชน์ จำนวน 15 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้บริหารจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มเกษตรผู้ปลูกทุเรียนจังหวัดศรีสะเกษ และกลุ่มแม่ค้าทุเรียน จังหวัดศรีสะเกษ การวิจัยในครั้งนี้ พบว่า การสร้างแบรนด์และออกแบบโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ใช้โฆษณารูปแบบ 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบ Banner Advertising มีขนาด 1024 x 600 Pixels งานใช้สีโทนเย็น มีความโดดเด่น ดูสบายตาที่น่าสนใจสามารถดึงดูดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ มีผู้นำเสนอเสนอ (Presenter) ชื่อว่าน้องลำดวน และน้องลาวา เป็นตัวละคร (Character) ของแบรนด์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ สร้างสีสัน และดึงดูดผู้ชมให้เกิดความสนใจ และจดจำสินค้าได้มากขึ้น พาดหัว หรือ Creative Message ใช้คำว่า คำว่า ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ มีความน่าสนใจและน่าจดจำส่งผลให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์สินค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น กราฟิกและตัวอักษรมีความสอดคล้องกับลักษณะของตัวผู้นำเสนอ (Presenter) ซึ่งเป็นการ์ตูนที่มีลักษณะของตัวละคร (Character) น่ารัก อ่านง่าย สะดุดตา มีความหนาโค้งมนมองเห็นในระยะใกล้ รู้สึกเป็นมิตรปลอดภัย ประสิทธิภาพของแบรนด์และโฆษณาดิจิทัล รูปแบบ Banner Advertising มีค่าประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีมาก โดยเฉพาะ ภาพมีสีสันที่สวยงามสื่อความหมาย และน่าติดตาม รองลงมา ขนาดของภาพ กราฟิก และตัวอักษร มีความดึงดูดและสื่อสารได้ง่าย และจังหวะขององค์ประกอบศิลป์โดยรวมมีความลงตัว น่าสนใจ
และรูปแบบ Infographic Video พบว่า ข้อมูลของเนื้อหาได้จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านทุเรียน ผ่านการสนทนากลุ่มย่อย (focus group) และวิเคราะห์และเรียบเรียงเป็นบท Infographic Video และได้พัฒนาให้เป็นสตอรี่บอร์ด นำเนื้อหาไปออกแบบภาพ และกราฟิกเพื่ออธิบาย และสื่อสารไปยังผู้ชม ผ่านรูปร่าง รูปทรง สี ขนาด ตัวอักษร การจัดวางองค์ประกอบที่สื่อสารได้ง่าย และตรงประเด็นกับเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารมากที่สุด ประสิทธิภาพของโฆษณาดิจิทัล รูปแบบ Infographic Video มีค่าประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีมาก โดยเฉพาะ ความเหมาะสมของเนื้อหา ภาษาและเสียงพากย์มีความชัดเจนและเข้าใจ ภาพมีสีสันที่สวยงามสื่อความหมาย และน่าติดตาม การเคลื่อนไหวของภาพ และกราฟิกมีความดึงดูดในการติดตามชม และ วีดีโอมีความละเอียดสูงและแสดงผลคมชัด
ผลการรับรู้ของผู้บริโภคและผลการประเมินความสำเร็จของการใช้ประโยชน์จากแบรนด์และโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ พบว่า ผลการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์และโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ เรื่องของเทคนิคการเล่า มีวิธีการดำเนินเรื่องของสื่อโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่ชวนให้ผู้บริโภคติดตาม และผลการประเมินความสำเร็จของการใช้ประโยชน์จากแบรนด์และโฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ พบว่าเกิดประโยชน์กับหลายกลุ่มในจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจังหวัดศรีสะเกษ และกลุ่มแม่ค้าทุเรียน โฆษณาดิจิทัลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดศรีสะเกษ สร้างการจดจำ สร้างชื่อเสียง สร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างความต้องการซื้อของผู้บริโภค ให้กับทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ และทั่วประเทศยังเกิดความรู้ ความเข้าใจในคุณภาพของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และคุณสมบัติที่ดี ที่แตกต่างจากทุเรียนของจังหวัดอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
จุฑารัตน์ ศราวณะวงศ์. (2558). แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับงานประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ว.วิจัยสมาคมห้องสมุดฯ ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 ก.ค.–ธ.ค. 2558 : 55-69.
พรวิรุณ ปีทอง. (2554). รูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่มีผลต่อการเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ต: กรุงเทพฯ. ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ราชศักดิ์ อัศวศุภชัย. (2560). โฆษณาดิจิทัลโตแรงปี60พุ่ง 29%. หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์.
ลมลเพ็ชร อภิสิทธิ์นิรันดร์. (2552). “Social Networking “เหมืองทอง”ธุรกิจไซเบอร์.” [ออนไลน์] เข้าถึงได้ จาก:http://article.kcnbrand.com/technology/ computer-technology/4273, 30 ธันวาคม 2553.
อารีย์ นัยพินิจ, ภัทรพงษ์ เกริกสกุล, และธงพล พรหมสาขา ณ สกลนคร. (2557). การปรับตัวภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา, 7(1): 1–12.
Best, John W. (1997). Research in Education. .ed., Englewood Cliffs, New Jersey. Prentice – Hell, lnc.
Macbride. (1980). Consumer behavior. New York : Holt, Rinehart and Winson.
Statista. (2015). Leading social networks worldwide as of March 2015, ranked by number of active users (inmillions). Retrieved April 24, 2015, from http://www.statista.com/statistics/272014/global–social–networks–ranked–by–number–of–users Ommen, B. R. (2007). The protocol of display: Graphic design and public imagination. Unpublished Doctoral Dissertation, Northwestern University, Chicago.