การศึกษาวัฒนธรรมไทลื้อด้านศาสนา ที่เมืองเชียงรุ่ง จังหวัดสิบสองปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีน
Main Article Content
บทคัดย่อ
ประมาณศตวรรษที่3 พุทธศาสนาเถรวาทได้เข้ามาเมืองเชียงรุ่ง และศตวรรษที่ 12 พุทธศาสนาถึงจุดที่เจริญที่สุดในเมืองเชียงรุ่ง และสภาพปัจจุบันและปัญหาของวัฒนธรรมไทลื้อด้านศาสนานั้นเมื่อเวลาผ่านไปบทบาทและความสำคัญของศาสนาลดลง ซึ่งคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุยังคงเคร่งครัดในพุทธศาสนาและการทำบุญ ส่วนวัยรุ่นและเด็กๆเข้าวัดทำบุญน้อยลง ปัญหาที่พบที่สำคัญคือ ไม่มีพระสงฆ์ และไม่มีเณรที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนา และอีกปัญหาใหญ่คือไม่มีผู้ที่จะสืบทอดศาสนาสำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทลื้อด้านศาสนาที่เมืองเชียงรุ่ง จังหวัดสิบสองปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีนมากที่สุดคือ การเมืองและนโยบายของรัฐ เช่นช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมของประเทศจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ห้ามนับถือศาสนา ปัจจัยที่มีผลน้อยที่สุดคือปัจจัยด้านเทคโนโลยีด้วยเทคโนโลยีมีรูปแบบที่น่าสนใจจึงทำให้ชาวไทลื้อสนใจเรียนรู้เทคโนโลยีมากกว่าศาสนา
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Liang zhaotao. (1981). Baiyue contribution to create the Chinese nation.คุนหมิง: ชนชาติยูนนาน.
วิทูร อินยา.(2558).ไตลื้อศึกษา. จังหวัดน่าน : โรงพิมย์น่านออฟเซต.